ธปท. ปรับแผนการออกพันธบัตรปี 2563 ขยายกรอบวงเงินออกพันธบัตร 1-6 หมื่นล้านทุกรุ่น มีผลบังคับใช้เดือน พ.ค.นี้เป็นต้นไป ย้ำหากตลาดผันผวนสามารถปรับวงเงินได้โดยจะแจ้งตลาดล่วงหน้า 2 วันทำการก่อนวันประมูลพันธบัตร
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุว่า ในช่วงที่ผ่านมา สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจและตลาดการเงินทั้งในและต่างประเทศเป็นวงกว้าง ตลาดพันธบัตรมีความผันผวนเพิ่มขึ้นและคาดว่าจะยังอยู่ในระดับสูงในระยะต่อไป นอกจากนี้ การระดมทุนของภาครัฐเพื่อรองรับมาตรการเยียวยาและลดผลกระทบ Covid-19 อาจส่งผลต่ออุปทานพันธบัตรภาครัฐโดยรวม
ธปท. จึงได้หารือร่วมกับสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ ถึงแนวทางการกำหนดวงเงินพันธบัตรภาครัฐให้อยู่ในระดับเหมาะสม โดยคำนึงถึงแผนการระดมทุนภาครัฐและความต้องการลงทุนที่อาจปรับเปลี่ยนรวดเร็วในสภาวการณ์ข้างต้น ในการนี้ ธปท. จึงพิจารณาปรับแผนการออกพันธบัตร ธปท. ปี 2563 โดยให้เริ่มมีผลบังคับใช้สำหรับแผนการออกพันธบัตร ธปท. เดือนพฤษภาคม 2563 เป็นต้นไป
1. กำหนดการประมูลพันธบัตร: ธปท. ยังกำหนดวันและความถี่ในการประมูลพันธบัตร ธปท. ประเภทอายุต่างๆ ไว้ตามแนวปฏิบัติเดิม อย่างไรก็ดี ธปท. อาจพิจารณาปรับความถี่การประมูลและวงเงินของพันธบัตร ธปท. ระยะ 3 เดือน 6 เดือน และพันธบัตรประเภทอัตราดอกเบี้ยคงที่บางรุ่น เพื่อให้สอดคล้องกับการประมูลตั๋วเงินคลังและพันธบัตรรัฐบาลที่ระยะเดียวกันในแต่ละสัปดาห์ โดยสรุปรายละเอียดได้ดังนี้
2. วงเงินการออกพันธบัตร: ธปท. ขยายกรอบวงเงินพันธบัตรประเภทที่จำหน่ายเป็นส่วนลดทุกรุ่นอายุเป็น 10,000 – 60,000 ล้านบาท เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นในการกำหนดปริมาณพันธบัตร ธปท. ให้สอดคล้องกับแผนการระดมทุนภาครัฐและความต้องการลงทุนพันธบัตรในแต่ละช่วงเวลา ดังนี้
3. การประกาศกำหนดการออกพันธบัตร ธปท. รายเดือน: ธปท. จะประกาศตารางประมูลพันธบัตร ธปท. ให้ตลาดทราบล่วงหน้าทุกเดือนผ่านทาง website ของ ธปท. เช่นที่เคยปฏิบัติมา อย่างไรก็ดี ธปท. ขอสงวนสิทธิการปรับวงเงินประมูลพันธบัตร ธปท. ระหว่างเดือน กรณีตลาดการเงินมีความผันผวนเพิ่มขึ้นจนส่งผลให้ความต้องการพันธบัตรในระหว่างเดือนเปลี่ยนแปลงไปจากที่คาดการณ์อย่างมีนัยสำคัญ โดย ธปท. จะแจ้งให้ตลาดทราบอย่างน้อย 2 วันทำการก่อนวันประมูลพันธบัตร
ในระยะต่อไป ธปท. จะประสานงานกับสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะอย่างใกล้ชิด ในการกำหนดวงเงินและประเภทอายุพันธบัตร ธปท. ให้เหมาะสมกับภาวะตลาดเงินและตลาดพันธบัตร รวมทั้งคำนึงถึงการออกตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล และพันธบัตรรัฐวิสาหกิจ เพื่อให้ปริมาณพันธบัตรภาครัฐโดยรวมอยู่ในระดับที่เหมาะสมสอดคล้องกับภาวะตลาดในแต่ละช่วงเวลา
ที่มา : ธนาคารแห่งประเทศไทย