เบื้องหลัง ‘Nanyang Have Fun ใหม่’ รองเท้านักเรียนยุค COVID-19 ไม่ต้องผูกเชือกลดสัมผัสเชื้อ

ครอง เบอร์ 1 ในตลาดรองเท้านักเรียนผ้าใบมาอย่างยาวนานสำหรับ ‘นันยาง’ ที่แม้ตลาดจะไม่เติบโตและมีคู่แข่งกว่า 10 รายในตลาด แต่ปี 2562 ก็ยังสามารถสร้างการเติบโตได้ถึง 10% ด้วย 2 โปรดักต์ใหม่ที่ออกได้รับการตอบรับดีมาก ทั้งนันยางเรด (NanyangRED) และรองเท้าแตะช้างดาวรุ่น ‘KHYA™ (ขยะ)’ ที่ทำจากขยะในทะเล อีกทั้งปลายปีตลาดส่งออกก็ทำได้ดี และในปีนี้นันยางมั่นใจว่ายังสามารถเติบโตได้ 5% แม้จะไม่มีสัญญาณบวกใด ๆ

จักรพล จันทวิมล ผู้จัดการทั่วไป บริษัท นันยางมาร์เก็ตติ้ง จำกัด กล่าวว่า ไตรมาส 1 ที่ผ่านมานันยางสามารถเติบโต 3% เนื่องจากร้านค้าเตรียมไว้สำหรับช่วงเปิดเทอมและค่าเงินบาทที่อ่อนตัวทำให้ส่งออกได้ดีโดยเฉพาะประเทศพม่า และเเม้ในเดือนเมษายนทุกอย่างชัดดาวน์ แต่ก็เห็นเทรนด์การปิดตลาดขายของของมหาวิทยาลัยต่าง ๆ จึงเกิดเป็นรองเท้าช้างดาว 2 รุ่นพิเศษ ‘เหลืองแดง-ไวท์พิ้งค์ COVID Edition’ แก่ชาว ‘จุฬา-ธรรมศาสตร์’ ซึ่งมียอดขาย 8,000 คู่ และได้บริจาคเงินให้กับโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์สภากาชาดไทย และโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติแห่งละ 2 แสนบาท

อ่าน >>> นันยางผุดไอเดียช้างดาว “เหลืองแดง-ไวท์พิ้งค์” รุ่น COVID Edition แก่ชาว “จุฬา-ธรรมศาสตร์”

และแม้ว่าสถานการณ์ COVID-19 จะทำให้ต้องเลื่อนเปิดเทอม แต่ก็แทบจะไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดรองเท้านักเรียน เพราะเด็กอยากไปโรงเรียน ไม่อยากอยู่บ้าน ขณะที่การเปิดเทอมยังคงมี ดังนั้นจากเดิมที่รองเท้านักเรียนจะขายดีในช่วงหลังสงกรานต์ถึง 15 พฤษภาคม ก็เปลี่ยนเป็นจะทำให้ต้องเลื่อนเปิดเทอมเป็นอีกทีในช่วง 15 พฤษภาคม ถึง 1 กรกฎาคมแทน ซึ่งเชื่อว่า ตลาดจะกลับมาคึกคักแน่นอน

นอกจากนี้ นันยางได้เปิดตัว Nanyang Have Fun ใหม่ ที่มาพร้อมเชือกยืดหยุ่น ไม่ต้องผูก ลดการสัมผัสเชื้อโรคจากรองเท้า เพิ่มความอุ่นใจให้ผู้ปกครอง และเพิ่มความปลอดภัยต่อเด็กนักเรียน ดังนั้นมั่นใจว่า Nanyang Have Fun ใหม่จะสร้าง New Normal ให้ตลาด และหวังว่าสินค้าจะเติบโต 20-25% ทั้งนี้ Nanyang Have Fun ใหม่ จะแถมฟรีเชือกยืดหยุ่นมูลค่า 69 บาทจนกว่า COVID-19 จะหมดไปจากไทย นอกจากนี้ได้มอบเชือกยืดหยุ่นให้แก่ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายอีก 120,000 ชุด

“เราทำมาก่อนที่จะเจอ COVID-19 โดยร่วมกับ Hummingbirds ในการทำวิจัย Inside Thai Kids ซึ่งเราเจอปัญหาว่าเด็กประถมผูกเชือกรองเท้าไม่เป็น และทำเชือกหลุดมากกว่า 10 ครั้ง/วัน ดังนั้นเราจึงทำรองเท้าที่มีเชือกยืดหยุ่นไว้ใส่ที่รองเท้า ไม้ต้องผูกซักได้เลย นี่คือสิ่งประดิษฐ์ของเรา”

Nanyang Have Fun เป็นเซ็กเมนต์ที่จับกลุ่มเด็กประถม จะมีไซส์เล็ก และมีความยืดหยุ่น เหตุผลที่นันยางลงมาจับตลาดนี้ไม่ช่วงนี้ อีกทั้งยังเป็นรุ่นมีเชือกยืดหยุ่น เพราะโดยปกติแล้วนันยางจะแข็งแกร่งในกลุ่มของเด็กโต หรือเด็กมัธยม ครั้งนี้จึงต้องการสร้างความเข้มแข็งให้กับตลาดกลุ่มเด็กเล็กมากขึ้น

ในส่วนของภาพรวมตลาดปีนี้คาดว่ายังทรงตัวที่ 5,000 ล้านบาทไม่เติบโต โดยเฉลี่ยการซื้อที่ 1.3 คู่/คน/ปี ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 300 บาท และแม้ว่าปีนี้กำลังซื้อของผู้ปกครองอาจหายไป แต่นันยางไม่ใช่สินค้าแฟชั่น เป็นสินค้ากึ่งจำเป็น และต้องใช้งาน ดังนั้นคนยังต้องซื้อสินค้าเน้นที่คุณภาพ ใส่ได้นาน ซึ่งในเรื่องคุณภาพ มั่นใจว่านันยางตอบโจทย์

“การแข่งขันดุเดือดมากเพราะว่าทั้งปีซื้อแค่เดือนเดียว ดังนั้นจึงมีทั้งแถมของ แข่งในเรื่องอีโมชันนอล แต่สุดท้ายแล้วอยู่ที่ฟังก์ชัน เพราะเขาเดินกว่าล้านก้าวใน 200 วัน และถ้าซื้อยี่ห้อใดยี่ห้อหนึ่งจะซื้อยี่ห้อเดียวกันไปเลย ดังนั้นเราต้องมีกลยุทธ์ครองใจผู้บริโภคให้ได้ อย่างตอนนี้เราแข็งแรงในกลุ่มมัธยม เราจึงมาเจาะตลาดเด็กประถม เพื่อให้เขาใส่นันยางตั้งแต่ตอนนี้”

ปัจจุบัน สัดส่วนการขายของนันยาง 75% อยู่ที่เทรดดิชันนอล 25% เป็นโมเดิร์นเทรด และ 5% บนออนไลน์ ซึ่งในช่วงเดือนเมษายนช่องทางออนไลน์มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด และอีกความน่าสนใจคือ ช่องทางออนไลน์ทำให้สามารถคุยตรงกับผู้บริโภค ช่วยนำข้อมูลไปปรับปรุงได้ตลอดเวลา อย่างแนวคิดรองเท้ารุ่น COVID Edition ก็เกิดจากการไปออนไลน์ ซึ่งจากนี้นันยางอาจจะออกสินค้าอื่น ๆ อีกเพื่อเป็นสีสันให้ผู้บริโภคหายคิดถึง แต่คงไม่ทำถาวร เพราะยังอยากให้จดจำในฐานะแบรนด์รองเท้า

“การทำงานในช่วงวิกฤติโควิดทำให้เราได้มีสติอยู่กับตัวเอง ทำให้เราได้หันมาดูจุดอ่อน จุดแข็ง และดูว่าจะใช้อะไรเป็นโอกาส เพื่อที่จะทำให้เราผ่านจุดนี้ไปให้ได้”

ทั้งนี้ รองเท้าผ้าใบนักเรียน Nanyang Have Fun ใหม่ ราคา 285 บาท มีให้เลือกตั้งแต่เบอร์ 28–36 เหมาะสำหรับเด็กอายุระหว่าง 4–10 ปี มี 3 สีให้เลือก ได้แก่ สีขาว ดำ และน้ำตาล พร้อมเชือกผูกรองเท้าปกติและเชือกใหม่ไม่ต้องผูก โดยสินค้าทยอยเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่เดือน พ.ค. นี้เป็นต้นไปที่ร้านรองเท้ากว่า 4,000 แห่งทั่วประเทศ บิ๊กซี โลตัส และช่องทางออนไลน์ Lazada Shopee JDCentral