ต่อยอดบันเทิงฉบับ 3 มิติด้วยโน้ตบุ๊ก

แม้ว่าภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ชื่อดังอย่าง AVATAR จะลาโรงไปเกือบครึ่งปีแล้ว แต่กระแส “หนัง 3 มิติ” ที่เรื่องนี้เคยปลุกไว้ไม่ได้จืดจางไปด้วย แถมยังต่อเนื่องมาในรูปแบบซีดี ดีวีดี ไปจนถึงเกมออกมาเอาใจแฟนพันธุ์แท้ “3 มิติ” ได้เสพความบันเทิงต่อถึงที่บ้าน และนี่เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ผู้ผลิตโน้ตบุ๊กอย่างเอเซอร์และอัสซุสเองมองเห็นถึงความเป็นไปได้ในการทำตลาด “โน้ตบุ๊ก 3 มิติ” ในไทย

“การเปิดตลาดตอนนี้ก็เพื่อให้เห็นว่า 3 มิติไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป ไม่ต้องนั่งรอคนทำหนังมาแล้วไปดูที่โรง แต่ดูเมื่อไหร่ก็ได้” ไซม่อน หรือ บุญชัย เงาวิศิษฎ์กุล รองผู้อำนวยการ ฝ่ายบริหารผลิตภัณฑ์คอนซูมเมอร์ บริษัท เอเซอร์ คอมพิวเตอร์ จำกัด บอก โดยเปิดตัวโน้ตบุ๊กรุ่น Aspire 5740 DG ซึ่งเป็นรุ่นแรกและรายแรกที่เข้ามาทำตลาดในไทยตั้งแต่เมื่อปลายปีที่ผ่านมา เล็งกลุ่มเป้าหมายไปยังผู้ที่ชื่นชอบ Home Entertainment และผู้ผลิตคอนเทนต์ 3 มิติ ซึ่งมีความต้องการเรื่องนี้เป็นพื้นฐานอยู่แล้ว ที่สำคัญจุดเด่นของรุ่นนี้คือสามารถปรับภาพจาก 2 มิติให้มีความชัดลึกในรูปแบบ 3 มิติได้ จึงไม่จำเป็นต้องซื้อคอนเทนต์ 3 มิติมาดูเท่านั้น

ไซม่อน เล่าว่า ช่วงที่เปิดตัวเป็นจังหวะเดียวกันกับที่ AVATAR เข้าฉายในไทยพอดี ทางค่ายหนัง 20th Century Fox จึงร่วมมือกับเอเซอร์จัดกิจกรรมร่วมสนุกกับผู้บริโภคที่ชื่นชอบหนัง 3 มิติ โดยสนับสนุนรางวัลเป็นโน้ตบุ๊กรุ่นดังกล่าว นอกจากนี้ยังทำโปรโมชั่นจำหน่ายโน้ตบุ๊ก 3 มิติร่วมกับกล้องดิจิตอลของฟูจิรุ่น FinePix Real 3D W1 ที่สามารถถ่ายภาพนิ่งและบันทึกวิดีโอในรูปแบบ 3 มิติได้เป็นรุ่นแรกของโลก เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถสร้างคอนเทนต์ 3 มิติได้เองและสามารถดูผลงานผ่านโน้ตบุ๊กของเอเซอร์ โดยเขาให้เหตุผลว่าการทำ Co-marketing ร่วมกับพันธมิตรทั้ง 2 รายนั้นมุ่งไปเพื่อสร้าง Awareness และ Demand แก่ตลาดมากกว่าการกระตุ้นยอดขาย

สำหรับช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาเขายอมรับว่ายอดขายไม่สูงมากนักเนื่องจากการบริโภคคอนเทนต์ 3 มิติ ยังไม่ใช่ความต้องการหลักของคนทั่วไปเหมือนกับการใช้งานไวร์เลส จึงทำให้ผู้บริโภคจัดอยู่ในกลุ่ม Niche ดังนั้นเอเซอร์จึงตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 2-3% จากยอดขายโน้ตบุ๊กทั้งหมด 40% ของเอเซอร์ในสิ้นปีเท่านั้น พร้อมกับวาง Positioning ให้เป็น “นวัตกรรมที่จับต้องได้” ด้วยราคาจำหน่ายที่ 39,900 บาท ซึ่งถือว่าไม่สูงจนเกินไป และมีแผนนำโน้ตบุ๊ก 3 มิติ ซีรีย์สต่อไปมาทำตลาดราวปลายปี แต่คราวนี้เล็งกลุ่มเป้าหมายไปที่ “เกมเมอร์” ส่วนราคายังไม่กำหนดชัดเจน แต่ที่แน่นอนคือแพงกว่ารุ่นเดิมเพราะใช้เทคโนโลยีที่สูงขึ้น

หลังจากที่เอเซอร์บุกตลาดได้เพียงหนึ่งไตรมาส บริษัท อัสซุสเทค คอมพิวเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ก็ได้เปิดตัวโน้ตบุ๊กสำหรับคนรัก 3 มิติ ในรุ่น G51J-1X110V โดยวาง Positioning ไว้ที่ระดับไฮเอนด์ ด้วยราคาที่สูงถึง 79,900 บาท โดยเสริมเทคโนโลยีอินฟราเรดเพื่อให้ภาพคมชัดและลึกยิ่งขึ้นเอาใจผู้ชอบดูหนัง 3 มิติและเกมเมอร์โดยเฉพาะ
พรเทพ วัชรอำนวย หัวเรือใหญ่ของอัสซุสประเทศไทยบอกว่าเหตุผลที่เลือกทำตลาดในตอนนี้ไม่ใช่แค่เพียงเห็นเทรนด์ของ 3 มิติที่กำลังมาเท่านั้น แต่เพราะอัสซุสเป็นผู้ผลิตเมนบอร์ดและการ์ดจอสำหรับเกม 3 มิติที่อยู่ในจอแอลซีดีมาเป็นเวลาไม่ต่ำกว่า 5 ปีแล้ว รวมทั้งเป็นผู้นำตลาดด้านเมนบอร์ดในคอมพิวเตอร์จึงทำให้มีฐานตลาดในกลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านไอทีมากพอสมควร

ดังนั้นการทำตลาดของอัสซุสจึงต่างจากเอเซอร์ โดยเน้นไปที่การให้ข้อมูลเชิงลึกด้านเทคนิคแก่ผู้บริโภคผ่านสื่อต่างๆ ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ เช่น รายการแบไต๋ไฮเทค ที่เป็นการนำเครื่องไปทดสอบเพื่อให้เห็นถึงประสิทธิภาพการทำงานของโน้ตบุ๊ก 3 มิติอย่างละเอียดและชัดเจน เนื่องจากไม่ใช่ลูกค้ากลุ่มแมสแต่เป็นกลุ่ม “Niche” ที่มีความรู้เรื่องไอทีค่อนข้างสูงและมักศึกษาข้อมูลสเปกก่อนตัดสินใจซื้อ ซึ่งเขาบอกว่าคนซื้อมีหลากหลายระดับอายุแต่ส่วนใหญ่มักเป็นนักเรียน นักศึกษา ที่มีความรู้ด้านไอทีเพราะรู้ว่าจะนำไปใช้งานอะไรได้บ้างและรู้จักประสิทธิภาพของสินค้า สวนทางกับกลุ่มผู้ใหญ่ที่สนใจเรื่องราคามากกว่า

ขณะเดียวกัน เขาตั้งเป้ายอดขายโน้ตบุ๊กในกลุ่ม 3 มิติในช่วงครึ่งปีหลังไว้เพียง 200-300 เครื่องเท่านั้นเพราะเป็นกลุ่ม Niche การตอบรับจึงไม่มากเท่ากลุ่มแมสแน่นอน ซึ่งอนาคตทางอัสซุสมีแผนทำตลาดให้อยู่ในราคาที่เข้าถึงผู้บริโภคได้ง่ายขึ้น โดยลดสเปกในบางส่วนที่ไม่ใช่เทคโนโลยีหลักลงไปเพื่อให้อยู่ในราคาระดับกลางมากขึ้น ส่วนเรื่องช่องทางการขายนั้น อัสซุสเลือกจำหน่ายผ่าน Asus Corner เนื่องจากเครื่องมีจำนวนจำกัด ส่วนเอเซอร์ยังใช้ช่องทางเดิมคือ IT City ในสาขาที่อยู่ตามหัวเมืองใหญ่ เช่น กรุงเทพฯ เชียงใหม่ และภูเก็ต

อยางไรก็ตาม ถึงแม้ว่าทั้ง 2 รายจะเป็นคู่แข่งกันทางด้านการทำตลาดโน้ตบุ๊ก 3 มิติ แต่สิ่งหนึ่งที่เห็นตรงกันคือตอนนี้อยู่ในช่วงสร้างตลาดให้ผู้บริโภค “รู้จัก” มากกว่าการสร้างยอดขาย เช่นเดียวกับยุโรปและอเมริกาที่ให้การตอบรับเรื่อง 3 มิติเป็นอย่างดีเพราะผุ้บริโภคได้รับการเรียนรู้ด้านนี้ค่อนข้างมาก เนื่องจากมีการแข่งขันในตลาดสูง รวมทั้งยังมีคอนเทนต์ที่รองรับมากกว่าด้วย

“หากว่าวันหนึ่งตลาดเปลี่ยนไป ไม่มีใครดูคอนเทนต์ 2 มิติแล้วมาดู 3 มิติกันหมดจนเป็นมาตรฐานเหมือนกับที่ตอนนี้มีไวร์เลสไปทั่วทุกแห่ง ก็ทำให้ทุกคนต้องทิ้งสิ่งมีอยู่มาใช้มาตรฐานนี้แทน” ไซม่อน สรุป

บทสรุปโน้ตบุ๊ก 3 มิติ
1. นักเล่นเกมสนใจโน้ตบุ๊ก 3 มิติที่หน้าจอใหญ่มากกว่าขนาดทั่วไปเพื่อเพิ่มอรรถรสในการเล่นเกม โดยเฉพาะขนาด 15 และ 17 นิ้วเป็นที่นิยมมากในแถบยุโรปและอเมริกา แต่อาจไม่เหมาะกับตลาดไทยที่ส่วนใหญ่นิยมจอขนาด 14 นิ้วมากกว่า
2. เป็นที่สนใจสำหรับเหล่าเกมเมอร์ และ Early Adopters ที่ยินยอมจ่ายเพื่อแลกกับการดื่มด่ำประสบการณ์ใหม่
3. อาจมีแผนพัฒนาเทคโนโลยีให้ภาพมีความลึกขึ้นเหมาะกับการเล่นเกมประเภทต่อสู้ ผจญภัย และกีฬา
4. ในอนาคตจะมีการผลิตคอนเทนต์ 3 มิติออกมามากขึ้น รวมถึงเกมคอมพิวเตอร์แบบ 3 มิติด้วย
5. คำตอบสำหรับผู้เลือกดูหนังจากโน้ตบุ๊ก 3 มิติเพราะความสะดวกในการพกพา สามารถดูในรูปแบบออนไลน์และวิดีโอคลิปได้มากกว่าทีวี
6. เป็นที่สนใจอย่างมากในแถบอเมริกาและยุโรป

เทียบรุ่น
Brand / Model Acer Aspire 5740 DG
CPU Intel Core i7
Display15.6 นิ้ว HD
OS Windows 7
3 D ปรับความชัดลึกแบบ 2 มิติมาเป็น 3 มิติได้
Other Dolby Home Theater
Price 39,900 บาท

Brand / Model Asus G51J-1X110V
CPU Intel Core i7
Display 15.6 นิ้ว HD
OS Windows 7
3 D แว่นเชื่อมต่ออินฟราเรดกับการ์ดจอเพื่อให้ภาพคมชัดและลึกกว่า 3 มิติทั่วไป
Other Blu-ray DVD
Price 79,900 บาท