ประธานาธิบดี ไช่ อิงเหวิน แห่งไต้หวัน ระบุว่า ข้อเสนอของจีนที่จะให้ไต้หวันมีอำนาจปกครองตนเองภายใต้สูตร “หนึ่งประเทศ-สองระบบ” เป็นสิ่งที่รับไม่ได้ และเรียกร้องให้มีการเปิดเจรจาเพื่อให้ทั้ง 2 ฝ่ายสามารถดำรงอยู่ร่วมกันอย่างสันติ ขณะที่ฝ่ายจีนสวนกลับทันควันว่าการรวบรวมชาติเป็นสิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยง
ไช่ วัย 63 ปี กล่าวสุนทรพจน์เนื่องในโอกาสสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่ 2 โดยระบุว่า ความสัมพันธ์ไต้หวัน-จีน ได้ดำเนินมาถึงช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญ
“ทั้งสองฝ่ายต่างมีหน้าที่ที่จะต้องหาวิธีดำรงอยู่ร่วมกันในระยะยาว และป้องกันไม่ให้ความรู้สึกเป็นศัตรูและความแตกต่างรุนแรงยิ่งไปกว่านี้”
ไช่ และพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า (DPP) ของเธอคว้าชัยชนะอย่างล้นหลามในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดี และการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาเมื่อเดือน ม.ค. โดยเธอให้สัญญาจะยืนหยัดต่อสู้กับรัฐบาลปักกิ่งที่อ้างว่าไต้หวันเป็นแค่ “มณฑลทรยศ” และขู่จะใช้กำลังนำเกาะแห่งนี้กลับสู่การปกครองของแผ่นดินใหญ่
“ณ ที่นี้ดิฉันขอกล่าวย้ำถ้อยคำแห่งสันติภาพ, ความเสมอภาคเท่าเทียม, ระบอบประชาธิปไตย และการเจรจา เราจะไม่ยอมให้ปักกิ่งนำสูตรหนึ่งประเทศ-สองระบบมาลดทอนสถานะของไต้หวัน และทำลายสถานภาพปัจจุบันระหว่างช่องแคบ เราขอยืนหยัดในหลักการข้อนี้”
สูตร “หนึ่งประเทศ-สองระบบ” นั้น เป็นการรับรองว่าจะให้สิทธิ์ในการปกครองตนเองขั้นสูง ซึ่งจีนได้นำสูตรนี้มาใช้กับ “ฮ่องกง” หลังจากที่อดีตเกาะอาณานิคมอังกฤษแห่งนี้ถูกส่งคืนสู่อ้อมอกในปี 1997
จีนเสนอให้มีการใช้สูตรเดียวกันนี้กับไต้หวัน ทว่า บรรดาพรรคการเมืองใหญ่ๆ ของไทเปไม่เอาด้วย
ขณะที่ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ยกให้สูตรหนึ่งประเทศ-สองระบบเป็น “เสาหลัก” ของนโยบายที่จีนมีต่อไต้หวัน แต่ ไช่ กลับยืนยันว่าไต้หวันเป็นรัฐอิสระที่มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า สาธารณรัฐจีน (Republic of China) และไม่ได้ต้องการที่จะเป็นส่วนหนึ่งของสาธารณรัฐประชาชนจีน
ล่าสุด สำนักงานกิจการไต้หวันของจีนออกมาตอบโต้คำแถลงของ ไช่ โดยยืนยันว่าจีน “จะยึดมั่นในสูตรหนึ่งประเทศ-สองระบบ” และ “ไม่ยินยอมให้มีการทำกิจกรรมแบ่งแยกดินแดนไต้หวัน”
“การรวบรวมชาติคือสิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ในทางประวัติศาสตร์ เพื่อนำไปสู่การฟื้นฟูชาติจีนใหม่ (great rejuvenation) เรามีเจตนารมณ์แน่วแน่ มีความมั่นใจอย่างเต็มที่ และมีศักยภาพเพียงเพียงพอที่จะปกป้องอธิปไตยของชาติ และบูรณภาพแห่งดินแดนจีน”
กองทัพจีนซ้อมรบใกล้เกาะไต้หวันบ่อยขึ้น ตั้งแต่ ไช่ ชนะศึกเลือกตั้งสมัยที่ 2 โดยมีการส่งฝูงบินขับไล่เข้าไปในน่านฟ้าไต้หวัน และยังส่งหมู่เรือรบไปเพ่นพ่านในน่านน้ำรอบๆ เกาะประชาธิปไตยแห่งนี้ด้วย
ไช่ ยืนยันว่า รัฐบาลของเธอพยายามเต็มที่ที่จะธำรงไว้ซึ่งสันติภาพและเสถียรภาพบริเวณช่องแคบที่กั้นกลางระหว่างไต้หวันกับจีนแผ่นดินใหญ่ ขณะเดียวกัน ก็พร้อมสู้ไม่ถอยเพื่อให้ไต้หวันได้มีส่วนร่วมในองค์กรระหว่างประเทศ “และยกระดับความสัมพันธ์กับสหรัฐฯ, ญี่ปุ่น, ยุโรป และประเทศอื่นๆ ที่มีแนวคิดตรงกัน”
ไต้หวันไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าเป็นรัฐภาคีองค์การอนามัยโลก (WHO) เนื่องจากถูกคัดค้านโดยจีน ซึ่งถือว่าเกาะแห่งนี้เป็นเพียงมณฑลหนึ่งของตน และไม่มีสิทธิ์อ้างตัวว่าเป็นรัฐอธิปไตย