นักท่องเที่ยวต่างชาติที่กำลังฝันว่ารัฐบาลญี่ปุ่นจะช่วยออกค่าใช้จ่าย 50% ทั้งในส่วนของค่าตั๋วเครื่องบิน และค่าท่องเที่ยวแดนปลาดิบ มีอันต้องฝันสลาย หลังจากรัฐบาลญี่ปุ่นออกมาปฏิเสธข่าวลือดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
การท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น (Japan Tourism Agency) ออกมาปัดเป่าข่าวลือที่แพร่สะพัดตามสื่อมวลชนแขนงต่างๆ ซึ่งพากันกันรายงานว่าญี่ปุ่นกำลังมีแผนจัดแคมเปญหนึ่งที่จะออกค่าใช้จ่ายให้ผู้มาเยือน 50% ในขณะที่พวกเขาต้องการฟื้นฟูภาคการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19
หน่วยงานด้านการท่องเที่ยวของรัฐบาลแห่งนี้รุดออกมาชี้แจงทางออนไลน์ เขียนบนทวิตเตอร์ทั้งเป็นภาษาอังกฤษ และภาษาญี่ปุ่นว่า แคมเปญที่อยู่ภายใต้การพิจารณานั้นจะครอบคลุมเฉพาะการท่องเที่ยวภายในประเทศ และเป็นการออกค่าใช้จ่ายด้านการเดินทางแค่เพียงบางส่วนเท่านั้น
ความสับสนของโครงการด้านการท่องเที่ยวที่มีชื่อว่า Go To Travel Campaign ซึ่งมีเจตนากระตุ้นอุปสงค์ด้านการท่องเที่ยวภายในประเทศหลังการแพร่ระบาดของโรคระบาดใหญ่ ดูเหมือนจะเกิดขึ้นหลังจากสื่อมวลชนแห่งหนึ่งรายงานในเบื้องต้นที่บอกว่าโครงการนี้จะครอบคลุมค่าใช้จ่ายครึ่งหนึ่งของนักท่องเที่ยวทั้งหมด
ข่าวดังกล่าวได้ถูกหยิบไปรายงานต่อโดยเว็บไซต์ข่าวตะวันตก และเว็บบล็อกต่างๆ ซึ่งก่อให้เกิดความสับสนอย่างกว้างขวาง จนกระทั่งทางหน่วยงานด้านการท่องเที่ยวของรัฐบาลญี่ปุ่นรุดออกมาชี้แจง
จากรายงานสรุปงบประมาณเพิ่มเติมของรัฐบาลสำหรับปีงบประมาณ 2020 ซึ่งเผยแพร่โดยกระทรวงเศรษฐกิจ ระบุว่า แผนดังกล่าวจะเป็นการแจกคูปองท่องเที่ยวสูงสุด 20,000 เยน (ราว 5,900) บาทต่อคน ต่อการท่องเที่ยวหนึ่งครั้ง
สื่อมวลชนรายงานอ้างคำสัมภาษณ์ของ ฮิโรชิ ทาบาตะ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น ระบุเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า หากควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสได้แล้ว พวกเขามีเป้าหมายดำเนินโครงการ Go To Travel Campaign อย่างเร็วที่สุดในเดือนกรกฎาคม
จากข้อมูลพบว่า มีนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเยือนญี่ปุ่นในเดือนเมษายน เพียง 2,900 คน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 99.9% ถือเป็นครั้งแรกที่ตัวเลขนักท่องเที่ยวรายเดือนต่ำกว่า 10,000 คนนับตั้งแต่ปี 1964
