ฟื้นท่องเที่ยว! โรงแรมแห่จัดโปรฯ “ซื้อก่อน พักผ่อนทีหลัง” ลด 40-75% ดึงเงินสดหมุนธุรกิจ

วันนี้ (29 พ.ค. 63) รัฐบาลไทยตัดสินใจคลายล็อกดาวน์ระยะ 3 ทำให้วิถีชีวิตผู้คนกลับมาเป็นปกติทีละน้อย รวมถึง “การท่องเที่ยว” ที่ทยอยกลับมาทำธุรกิจ โรงแรมที่ปิดทำการไปนานกว่า 2 เดือนเตรียมตัว “come back” พร้อมออกแพ็กเกจ “ซื้อก่อน พักผ่อนทีหลัง” ดึงกระแสเงินสดเข้ามาได้เร็วขึ้น ตรงใจลูกค้าที่ยังไม่พร้อมท่องเที่ยวแต่ต้องการล็อกราคาโปรโมชันไว้ใช้ภายหลัง

หลังจังหวัดต่างๆ ทยอยคลายล็อกดาวน์ อนุญาตให้โรงแรมเปิดทำการได้ ทำให้ธุรกิจท่องเที่ยวและโรงแรมเริ่มฟื้นกิจการ วางแผนดึงนักท่องเที่ยวให้กลับมาเยือนอีกครั้ง

โดย Positioning สำรวจพบว่า แพ็กเกจโปรโมชันรูปแบบหนึ่งที่ธุรกิจโรงแรมและสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งนิยมจัดคือแพ็กเกจประเภท “ซื้อก่อน พักผ่อนทีหลัง” ลดราคาห้องพักและบริการราคาพิเศษ สามารถซื้อเก็บไว้โดยที่ยังไม่จำเป็นต้องระบุวันจองเข้าพักทันที หรืออีกรูปแบบที่คล้ายกันคือการออก “บัตรกำนัล” แทนเงินสดในราคาพิเศษ

โรงแรมส่วนใหญ่จะยืดเวลาการจองห้องพักตามแพ็กเกจหรือบัตรกำนัลดังกล่าว ให้ใช้ได้จนถึงสิ้นปี 2563 บางแห่งอาจวางยาวให้จนถึงสิ้นปี 2564 ซึ่งทำให้ลูกค้าเหมือนได้ “ล็อกราคา” โปรโมชันเก็บไว้ใช้ทีหลัง

(แถวบนจากซ้าย) เมอร์เคียว พัทยา โอเชี่ยน รีสอร์ต, โซ โซฟิเทล แบงคอก, พูลแมน ภูเก็ต อาเคเดีย หาดในทอน (แถวล่างจากซ้าย) พูลแมน พัทยา โฮเทล จี, เชอราตัน หัวหิน ปราณบุรี วิลล่า และ วีรันดา ไฮ รีสอร์ต เชียงใหม่

“ตัวอย่างโรงแรม-สถานที่ท่องเที่ยวที่จัดโปรฯ ซื้อก่อน พักผ่อนทีหลัง”

  • โรงแรมเชนโนโวเทล เมอร์เคียว และไอบิส 16 แห่ง ใน 6 จังหวัด เปิดขายบัตรกำนัลห้องพักลดราคา 50% / ซื้อได้ถึงวันที่ 8 มิ.ย. 63 / เข้าพักได้ 1 ส.ค. – 23 ธ.ค. 63
  • โซ โซฟิเทล แบงคอก ลดราคา 40% เปิดแพ็กเกจที่พัก 1 คืน 3,999 บาท สำหรับ 2 ท่าน พร้อมอาหารเช้า / ซื้อได้ถึงวันที่ 8 มิ.ย. 63 / เข้าพักได้ 1 ก.ค. – 23 ธ.ค. 63
  • พูลแมน ภูเก็ต อาเคเดีย หาดในทอน ลดราคา 60% แพ็กเกจที่พัก 3 คืน เริ่มต้น 15,000 บาท สำหรับ 2 ท่าน พร้อมอาหารเช้า กลางวัน เย็น และนวด 30 นาที / ซื้อได้ถึงวันที่ 8 มิ.ย. 63 / เข้าพักได้ 4 ก.ค. – 23 ธ.ค. 63
  • พูลแมน พัทยา โฮเทล จี ลดราคา 40% แพ็กเกจที่พัก 1 คืน เริ่มต้น 2,800 บาท สำหรับ 2 ท่าน พร้อมอาหารเช้า / ซื้อได้ถึงวันที่ 8 มิ.ย. 63 / เข้าพักได้ 1 ก.ค. – 27 ธ.ค. 63
  • เชอราตัน หัวหิน ปราณบุรี วิลล่า เปิดขายบัตรกำนัลแลกซื้อห้องพัก อาหาร บริการในโรงแรม ลดราคา 25% เริ่มต้น 1,000 บาท / ซื้อได้ถึงวันที่ 30 มิ.ย. 63 / แลกใช้ได้จนถึง 30 ธ.ค. 63
  • วีรันดา รีสอร์ต 3 แห่งในพัทยา หัวหิน เชียงใหม่ เปิดขายบัตรกำนัล ลดราคา 75% สำหรับใช้แลกซื้อห้องพัก ราคาบัตร 500 บาท / ซื้อได้ถึงวันที่ 2 มิ.ย. 63 / เข้าพักได้ 1 มิ.ย. – 31 ธ.ค. 63 (เฉพาะเชียงใหม่เปิด 1 ก.ค. 63)
  • สยามอะเมซิ่งพาร์ค (สวนสยาม) เปิดขายบัตรเข้าสวนน้ำ ลดราคา 55-65% เริ่มต้น 300 บาท / ซื้อได้ถึงวันที่ 31 พ.ค. 63 / แลกใช้ได้จนถึง 31 ธ.ค. 64

“วิน-วิน” ลูกค้าได้ล็อกราคา โรงแรมได้กระแสเงินสด

สาเหตุที่โปรโมชันเช่นนี้มีความน่าสนใจ เพราะแม้ว่าลูกค้าบางรายอาจจะพร้อมออกเที่ยวตั้งแต่วันนี้ แต่ยังมีผู้บริโภคอีกมากที่ไม่พร้อม และต้องการจะรอจังหวะสถานการณ์ที่ปลอดภัยมากขึ้นกว่านี้ก่อน ซึ่งยังไม่รู้ว่าจะเป็นเมื่อไหร่ ทำให้การลดราคาห้องพักแต่ต้องจองวันที่เข้าพักทันทีตามปกติ อาจจะไม่โดนใจผู้บริโภคกลุ่มนี้เท่าใดนัก

แต่ถ้ามีโปรโมชันที่ยืดหยุ่น ได้ห้องพักราคาพิเศษ ขณะเดียวกันก็มีเวลารอดูท่าทีได้อีกนาน ทำให้ลูกค้ากลุ่มนี้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น

นักท่องเที่ยวไทยพร้อมกลับมาเที่ยวเร็วๆ นี้ (Photo by Thanakorn Phanthura from Pexels)

ฝั่งโรงแรมยิ่งได้ประโยชน์ เพราะไม่ได้มีเพียงลูกค้าที่ “กล้าเที่ยว” ที่จะซื้อแพ็กเกจเข้ามา แต่ดึงกำลังซื้ออนาคตให้ซื้อเดี๋ยวนี้ได้ด้วย เป็นการดึงกระแสเงินสดเข้ามาได้เร็วขึ้น ช่วยต่อลมหายใจธุรกิจ และนำมาหมุนเวียนจัดซื้อวัตถุดิบ อุปกรณ์ เตรียมโรงแรมก่อนเปิดทำการจริง

ก่อนหน้านี้ “ตัน ภาสกรนที” เจ้าพ่อชาเขียวและเป็นเจ้าของธุรกิจส่วนตัวมีโรงแรม 3 แห่งในมือ กล่าวถึงวงการธุรกิจโรงแรมว่า ขณะนี้ทุกโรงแรม “ต้องการเงินสดล่วงหน้า” เพราะที่ผ่านมาแม้จะปิดทำการไปแต่ค่าใช้จ่ายบางอย่างยังไหลออกทุกวัน ดังนั้นจะได้เห็นแพ็กเกจโรงแรมรีสอร์ตลดราคาจำนวนมาก พร้อมฝากถึงคนไทยว่าต้องออกมา “ไทยเที่ยวไทย” ช่วยพยุงเศรษฐกิจ เนื่องจากชาวต่างชาติยังเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไม่ได้ ซึ่งขณะนี้พบว่าคนไทยมีการจองห้องพักเพื่อท่องเที่ยวบ้างแล้ว

 

คนไทยเปลี่ยนใจมาเที่ยวในประเทศ

ข้อมูลหลายแหล่งฉายให้เห็นด้วยว่า นักท่องเที่ยวไทยยังต้องการเที่ยวและเปลี่ยนใจมาเที่ยวในประเทศมากกว่า เช่น ร้านวัตสัน เก็บตัวอย่างชาวไทย 4,000 คน ระหว่างวันที่ 8-22 เม.ย. 63 พบว่าสิ่งที่คนไทยอยากทำมากที่สุดหลังพ้นวิกฤต COVID-19 คือ ไปท่องเที่ยวในประเทศ และสถานที่ที่อยากไปมากที่สุดคือ หัวหิน เชียงใหม่ และเชียงราย

ขณะที่ Airbnb สำรวจข้อมูลเดือนมีนาคม – 18 พ.ค. 63 พบว่าสถานที่ที่คนไทยบันทึก ‘wish list’ ที่พักที่ต้องการไปมากที่สุดคือ พัทยาและหัวหิน แตกต่างจากตลอดปี 2562 ที่คนไทยต้องการไปโตเกียว โซล และโอซาก้ามากที่สุด

หัวหิน คือแหล่งท่องเที่ยวอันดับต้นๆ ที่คนไทยอยากไปหลังโรคระบาด COVID-19 ควบคุมได้ (Photo by Booking.com)

สำหรับคาดการณ์ตลาดท่องเที่ยวของประเทศ ศูนย์วิจัย SCB EIC ธนาคารไทยพาณิชย์ ออกรายงานคาดการณ์เมื่อเดือนเมษายน 63 ว่า ในกรณีฐาน (base case) มองว่านักท่องเที่ยวต่างชาติปี 2563 จะลดลง 67% จากปีก่อน เหลือเพียง 13.1 ล้านคน ขณะที่นักท่องเที่ยวไทยจัดทริปค้างคืนในประเทศปีนี้จะลดลง 35% จากปีก่อน เหลือทั้งหมด 85 ล้านทริป ด้านค่าห้องพักเฉลี่ยต่อห้องพักที่ขายได้ (RevPAR) ของธุรกิจโรงแรมไทย EIC ประเมินว่าจะลดลง 55-65% ในปี 2563

เป็นปีที่หนักหน่วงของธุรกิจโรงแรมไทย และรายได้จะลดลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่เมื่อดีมานด์คนไทยต่อการท่องเที่ยวยังมีอยู่ เราอาจจะได้เห็นการฟื้นตัวเร็วกว่าที่คาด!