‘ซินเน็ค’ จับกระแส ‘New Normal’ ลุยตลาด เกมมิ่งเกียร์-เน็ตเวิร์กกิ้งโปรดักส์

สำหรับใครที่ซื้อสินค้าไอทีไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟน, สมาร์ทวอชท์, หูฟัง ฯลฯ คงจะต้องเคยเห็นสติกเกอร์ ‘Trusted by synnex’ หรือการรับประกันโดย ‘Synnex’ (ซินเน็ค) ซึ่งก็ไม่ต้องแปลกใจไป เพราะซินเน็คเป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายสินค้าไอทีจากผู้ผลิตชั้นนำระดับโลกแทบทุกแบรนด์ แต่เนื่องจากตลาดไอทีที่ไม่ค่อยสู้ดีนัก ซินเน็คเองก็ต้องปรับกลยุทธ์ใหม่เพื่อสร้างการเติบโตต่อไป โดยมีหมัดเด็ดคือ ‘Gaming Gear’

นางสาวสุธิดา มงคลสุธี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SYNEX กล่าวว่า แม้ผลกระทบจาก COVID-19 จะทำให้หน้าร้านสินค้าไอทีต้องปิดตัวลงจำนวนมาก แต่ยังได้อานิสงค์ของ ‘New Normal’ ที่เปลี่ยนการใช้ชีวิตและการทำงาน เช่น e-Meeting หรือการที่มีเวลาเล่นเกมมากขึ้น ส่งผลให้สินค้าอย่าง ระบบประชุมทางไกล กลุ่มสินค้าเกมมิ่ง โน้ตบุ๊ก กล้องเว็บแคม และสมาร์ทโฟนราคาต่ำกว่า 10,000 บาทก็เติบโตมากขึ้น

ทั้งนี้ ซินเน็คเองโฟกัสตลาดเกมตั้งแต่ปีที่ผ่านมา โดยมีรายได้จากกลุ่มเกมมิ่งเกียร์ 2,000 ล้านบาท เป็นเบอร์ 1 ในตลาด ซึ่งปัจจุบันตลาดเกมมิ่งเกียร์มีมูลค่า 5,000 ล้านบาท และด้วยอานิสงส์จาก COVID-19 ที่ทำให้เกมเมอร์มีจำนวนเพิ่มสูงขึ้น ซินเน็คมั่นใจว่าจะสามารถเติบโตได้ 20% ทำรายได้ 3,000 ล้านบาท โดยล่าสุดได้เป็นตัวแทนจำหน่ายของแบรนด์ ‘เลเซอร์’ (razer) เกมมิ่งเกียร์ระดับไฮเอนด์แต่เพียงผู้เดียว

“ตลาดเกมมิ่งมีขนาดใหญ่มากทั้งเกม อีสปอร์ต และเกมมิ่งเกียร์มีมูลค่ากว่า 20,000 ล้านบาท มีผู้เล่นในไทยกว่า 27 ล้านคน คิดเป็น 41% ของประชากร ซึ่ง COVID-19 ทำให้เกมเมอร์เพิ่มสูงขึ้น รวมถึงซื้อเกมมิ่งเกียร์และโน้ตบุ๊กมากขึ้น โดยในเดือนเมษายนที่ผ่านมา เราทำยอดขายได้มากกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมาถึง 5 เท่า”

สินค้าจำพวกเมมโมรี่การ์ด แฟลชไดรฟ์ แกดเจ็ตราคาสูง และพรินเตอร์มียอดขายลดลงในช่วง COVID-19 เพราะผู้บริโภคไม่สามารถออกไปเที่ยวไหน อีกทั้งยังต้อง Work from Home ส่งผลให้สินค้าเน็ตเวิร์กกิ้งโปรดักส์ อาทิ กล้องวิดีโอตัวเล็ก ๆ โน้ตบุ๊ก และเครื่องพิมพ์ขนาดเล็กเติบโตขึ้น ดังนั้นซินเน็คจึงขยับมาจับเทรนด์นี้เต็มตัว โดยไม่ได้มีแค่ฮาร์ดแวร์ แต่ยังมีพาร์ตเนอร์ที่ให้บริการโซลูชันการประชุมอีกด้วย อาทิ WebX ของ cisco ก็เป็นพาร์ตเนอร์กับซินเน็ค

“เมื่อก่อนคนใช้ไม่ใช้วิดีโอในการประชุม แต่ตอนนี้มันเป็นของจำเป็น ดังนั้นเราจึงโฟกัสที่ตลาดนี้ นอกจากนี้สินค้ากลุ่มสมาร์ทเฮลท์ก็ขายดี เช่น กล้องวงจรปิดที่จับอุณหภูมิ ซึ่งเราขยับมาถูกทางแล้ว”

ที่ผ่านมา COVID-19 ได้ส่งผลกระทบกับซินเน็คในด้านซัพพลายเชนบ้าง รวมถึงลูกค้าที่ไม่สต๊อกสินค้า เพราะหน้าร้านถูกปิด แต่หลังจากเริ่มมีการผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์ ภาพรวมตลาดก็ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทั้งด้านซัพพลายเชนและการสั่งซื้อของจากคู่ค้า ซึ่งในช่วงวิกฤติที่ผ่านมา ซินเน็คเองก็มีมาตรการช่วยเหลือ ทั้งการพักชำระ และสอนให้ Go Online

“ในไตรมาสแรกยอดนำเข้าเราลดเยอะมาก เพราะซัพพลายมาช้า แต่ตอนนี้ดีขึ้นมาก และหลังจากเปิดห้างลูกค้าสั่งของเพิ่มเยอะมาก ถือเป็นสัญญาณที่ดี นอกจากนี้เรายังเห็นโอกาสจากแพลตฟอร์ม b2b ออนไลน์ของเราที่มีการใช้งานมากขึ้นเป็น 50% ดังนั้นอนาคตเราอาจต่อยอดเป็นบริการฟูลฟิลเมนต์ คือ ไม่ต้องสต๊อกสินค้า แต่เราจะส่งสินค้าให้ลูกค้าเลย”

ปีนี้คาดว่ารายได้ของซินเน็คจะอยู่ที่ 35,000 ล้านบาท โดยมี Gross Profit (GP) ประมาณ 4% เติบโต 1% จากปีที่ผ่านมา ซึ่งจากนี้ซินเน็คจะไม่ได้โฟกัสเรื่องของรายได้เป็นหลัก แต่จะเน้นที่ผลกำไร ดังนั้นจะโฟกัสที่สินค้าที่มี GP สูง ๆ ซึ่งเกมมิ่งเกียร์ก็เป็นหนึ่งในนั้น และในส่วนของภาพรวมตลาดไอทีปีนี้ คาดว่าจะกลับมาคึกคักอีกครั้งในไตรมาส 4 และมองว่าเทคโนโลยี 5G จะเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญในปีหน้า โดยเฉพาะสินค้า IoT ซึ่งเป็นอีกตลาดที่ซินเน็คมีความสนใจ

นางสาวสุธิดา มงคลสุธี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)