วิสัยทัศน์บอสใหม่ JobsDB ประเทศไทย ปรับงานบริการลูกค้าให้เป็น “ทาเลนต์ พาร์ตเนอร์” เจาะองค์กรขนาดเล็กถึงกลางให้ดึงดูดพนักงานมากขึ้น ได้พนักงานภายใน 30 วัน ใช้เทคโนโลยี AI เก็บข้อมูลคนหางานเพื่อป้อนตำแหน่งงานให้ตรงใจ ได้งานเร็วขึ้น 6 เท่า
“พรลัดดา เดชรัตน์วิบูลย์” ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท จัดหางาน จ๊อบส์ ดีบี (ประเทศไทย) จำกัด หรือแพลตฟอร์มจัดหางาน JobsDB พรลัดดาขึ้นมารับตำแหน่งนี้เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2562 โดยย้ายมาจาก บริษัท ไอคาร์ เอเชีย ประเทศไทย ที่เธอเป็นผู้จัดการประจำประเทศอยู่เกือบ 4 ปี เป็นบริษัทบริหารแพลตฟอร์มซื้อขายรถยนต์มือสอง ที่รู้จักกันดี เช่น one2car.com
ที่ผ่านมา JobsDB มีประกาศตำแหน่งงานใหม่ 10,000 กว่าประกาศต่อเดือน แบ่งตำแหน่งประกาศ 50% เป็นตำแหน่งในบริษัทขนาดเล็ก (มีพนักงานไม่เกิน 50 คน) และ 50% เป็นบริษัทขนาดกลางถึงใหญ่ (มีพนักงาน 51-500 คน หรือ มากกว่า 500 คน)
โดยพรลัดดากล่าวว่า แพลตฟอร์ม JobsDB มีความแข็งแกร่งในตลาดแรงงานกลุ่มพนักงานออฟฟิศที่ใช้ภาษาอังกฤษได้ และดึงดูดประกาศหางานจากองค์กรขนาดกลางถึงใหญ่ได้มาก ความแข็งแกร่งในจุดนี้จะยังคงไว้ต่อไป แต่จะเพิ่มกลยุทธ์การปรับงานบริการลูกค้า (customer service) ให้เป็น “ทาเลนต์ พาร์ตเนอร์” กับบริษัทที่มาลงประกาศกับ JobsDB จากเดิมที่เป็นบอร์ดประกาศหางานให้เท่านั้น
พรลัดดาอธิบายว่า จุดมุ่งหมายของการเป็นตัวกลางจัดหางานคือ “จับคู่” ระหว่างบริษัทที่ต้องการคนกับคนที่กำลังหางานอยู่ได้สำเร็จ ซึ่งปกติแล้วองค์กรขนาดเล็กถึงกลางจะมีความลำบากมากกว่าบริษัทใหญ่ในการหาคน เพราะบริษัทอาจจะไม่เป็นที่รู้จักมากนัก
ทำให้ JobsDB ต้องการจะเป็นทาเลนต์ พาร์ตเนอร์ ช่วยแนะนำให้คำปรึกษาบริษัทขนาดเล็กถึงกลางในการประชาสัมพันธ์บริษัท หาจุดเด่นของบริษัทมาใช้ในการประกาศงาน เพื่อดึงดูดให้คนสนใจเข้ามาสมัคร
“ทาเลนต์ พาร์ตเนอร์จะสำคัญกับองค์กรขนาดกลางถึงเล็กมาก เพราะบริษัทใหญ่ที่เป็นที่รู้จักอยู่แล้ว แค่ลงรับสมัครงานก็มีคนส่งประวัติเข้าไปจน HR แทบจะสกรีนไม่ทัน แต่บริษัทกลางถึงเล็กอาจจะต้องใช้แบนเนอร์ช่วย ลงสิทธิประโยชน์พนักงานที่น่าสนใจ เพิ่มการพีอาร์บริษัทให้คนเข้าใจ” พรลัดดากล่าว
เป้าหมายคร่าวๆ คือบริษัทนั้นๆ ควรจะได้พนักงานภายใน 30 วัน เนื่องจากอายุประกาศหนึ่งรอบบน JobsDB มีระยะเวลาเท่านี้ บริษัทไม่ควรจะต้องลงประกาศซ้ำ
ฝั่งคนหางานทำ JobsDB มีการนำเทคโนโลยี AI มาช่วยในการเก็บข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูลของคนหางานว่าต้องการงานลักษณะใด ตำแหน่งใด เงินเดือนเท่าไหร่ ผ่านการติดตามว่าคนคนนั้นเลือกคลิกดูข้อมูลตำแหน่งงานแบบไหน และถ้ามีการฝากประวัติไว้กับแพลตฟอร์ม ก็สามารถสแกนข้อมูลนี้มาใช้ประมวลได้ด้วย จากนั้นจะเสนอตำแหน่งงานให้ผู้ที่กำลังหางานอยู่ได้ตรงใจมากขึ้น นำไปสู่การได้งานทำเร็วขึ้น 6 เท่า
ด้านธุรกิจจัดหางานปี 2563 พรลัดดากล่าวว่า เป็นไปตามสภาวะเศรษฐกิจ ช่วงที่ผ่านมาสถานการณ์ COVID-19 ทำให้หลายบริษัทมีนโยบายงดรับพนักงานเพิ่ม ซึ่งกระทบกับธุรกิจจัดหางานไปด้วย แต่หลังโรคระบาดเริ่มคลี่คลาย ผลสำรวจของบริษัทพบว่านายจ้าง 88% จะกลับมารับสมัครงานใหม่ในช่วงครึ่งปีหลัง ทำให้แนวโน้มบริษัท JobsDB ดีขึ้นเช่นกัน