บอร์ดสายการบินนกสกู๊ต มีมติเลิกกิจการแล้ว โดยผู้ถือหุ้นจะประชุมอีก 14 วัน ตามขั้นตอนหลังเปิดบริการได้ 6 ปี พนักงาน 425 คนจะได้ชดเชยตามกฎหมายคุ้มครองแรงงาน
คณะกรรมการบริษัทสายการบินนกสกู๊ตมีมติเลิกกิจการ โดย บริษัท สายการบินนกสกู๊ต จำกัด ได้แจ้งว่า รู้สึกเสียใจอย่างยิ่งที่จะประกาศให้ทราบว่า คณะกรรมการของบริษัทได้มีมติเลิกกิจการ โดยผู้ถือหุ้นของนกสกู๊ตจะลงมติเป็นอย่างเดียวกันในที่ประชุมใหญ่ที่จะมีขึ้นในอีกประมาณ 14 วัน
หลังจากนกสกู๊ต สายการบินร่วมทุนราคาประหยัดระหว่างสายการบินนกแอร์ของคนไทย และสายการบินสกู๊ต จากประเทศสิงคโปร์ ก่อตั้งขึ้นในปี 2557 นกสกู๊ตได้ดำเนินธุรกิจท่ามกลางความท้าทายในสถานการณ์ต่างๆ รวมถึงข้อจำกัดในการขยายเครือข่ายการบินภายใต้สภาพแวดล้อมการแข่งขันที่รุนแรงและการระบาดของ COVID-19 ทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงอย่างรุนแรง ด้วยเหตุนี้คณะกรรมการของบริษัท จึงไม่เห็นหนทางสู่การฟื้นตัวและการเติบโตที่ยั่งยืนของสายการบินอีกต่อไป
จนถึงปัจจุบัน มีพนักงานนกสกู๊ตที่ถูกเลิกจ้างจำนวน 425 คน โดยสายการบินนกสกู๊ตได้ชดเชยตามกฎหมายคุ้มครองแรงงานอย่างถูกต้อง ทั้งนี้พนักงานจำนวนหนึ่งยังคงปฏิบัติหน้าที่ เพื่อดำเนินการกระบวนการชำระบัญชีให้เสร็จสมบูรณ์ และพนักงานกลุ่มนี้จะได้รับการชดเชยอย่างถูกต้องเช่นเดียวกัน
นกสกู๊ตจะชี้แจงรายละเอียดเพิ่มเติมอีกครั้งเมื่อได้มีการแต่งตั้งผู้ชำระบัญชี และจัดให้เจ้าหนี้ได้ยื่นข้อเรียกร้อง
นกสกู๊ตขอขอบคุณ ลูกค้า ผู้โดยสาร พันธมิตร และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในทุกภาคส่วนสำหรับการสนันสนุนอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี 2557
โดย บมจ.สายการบินนกแอร์ (NOK) แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. 63 ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทวาระพิเศษ ครั้งที่ 5/2563 มีมติรับทราบ การเลิกกิจการและชำระบัญชีของ บริษัท สายการบินนกสกู๊ต จำกัด โดยมี บริษัท นกมั่งคั่ง จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ เข้าถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 49.65 ของทุนจดทะเบียน หรือคิดเป็น 1,470 ล้านบาท
เนื่องจากบริษัท สายการบินนกสกู๊ต จำกัด มีผลขาดทุนจากการดำเนินงานมาอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่ส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงานอีกด้วย ทั้งนี้ คณะกรรมการ บริษัท สายการบินนกสกู๊ต จำกัด ครั้งที่ 4/2563 เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2563 ได้กำหนดจัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2563 ในวันที่ 14 กรกฎาคม 2563 เพื่อเสนอต่อที่ประชุมให้พิจารณาอนุมัติการเลิกกิจการและการชำระบัญชีต่อไป
ทั้งนี้ บริษัท สายการบินนกสกู๊ต จำกัด มีส่วนของผู้ถือหุ้นขาดทุนเกินทุน มีทรัพย์สินและสัดส่วนรายได้เฉลี่ยคิดเป็นร้อยละ 37.16 และ 37.10 ของบริษัทฯ ในปี 2562 ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม การเลิกกิจการของ บริษัท สายการบินนกสกู๊ต จำกัด นั้นไม่ส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินของบริษัท
สำหรับการดำเนินธุรกิจต่อไปนั้น เส้นทางที่เป็นสิทธิการบินที่ บริษัท สายการบินนกสกู๊ต จำกัด มีอยู่นั้นจะหยุดให้ดำเนินการในเส้นทางบินจีน ได้แก่ นานจิง ชิงเต่า เทียนจิน เฉินหยาง เส้นทางบินไต้หวัน ได้แก่ ไทเป เส้นทางบินญี่ปุ่น ได้แก่ นาริตะ โอซาก้า ซัปโปโร และเส้นทางบินอินดีย ได้แก่ เดลลี เส้นทางบินเหล่านี้ไม่ได้ส่งผลกระทบในการดำเนินธุรกิจของบริษัททั้งทางตรงและทางอ้อมแต่อย่างใด
ในส่วนของบริษัทฯ นั้น ยังคงให้บริการในเส้นทางบินในประเทศเป็นหลัก และเส้นทางบินระหว่างประเทศที่มีสิทธิการบินเป็นของตนเอง ได้แก่ เส้นทางบินพม่า ได้แก่ ย่างกุ้ง เส้นทางบินเวียดนาม ได้แก่ โฮจิมินห์ และเส้นทางบินญี่ปุ่น ได้แก่ ฮิโรชิม่า และบริษัทฯ จะแจ้งการจดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชีของ บริษัท สายการบินนกสกู๊ต จำกัด ให้ทราบต่อไป