สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ท่าอากาศยานชางงี (Changi Airport) ของสิงคโปร์ได้เริ่มนำเซนเซอร์ตรวจจับไร้สัมผัส (proximity sensor) และอุปกรณ์อื่นๆ มาใช้บริการผู้โดยสารแบบไม่มีการสัมผัสแตะต้องกันเพื่อความปลอดภัย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเตรียมความพร้อมกลับมาให้บริการการเดินทางทางอากาศตามปกติอีกครั้ง
เอกสารประชาสัมพันธ์ของท่าอากศยานฯ ระบุว่า ปัจจุบันมีการติดตั้งเซนเซอร์ตรวจจับไร้สัมผัสชุดใหม่ที่ตู้บริการอัตโนมัติของท่าอากาศยาน เพื่อให้ผู้เดินทางเช็กอินหรือลงทะเบียนโหลดสัมภาระได้โดยไม่ต้องสัมผัสหน้าจออิเล็กทรอนิกส์
ขณะเดียวกันยังมีการนำเซนเซอร์อินฟราเรดมาใช้ ซึ่งจะช่วยให้ผู้โดยสารเลือกรายละเอียดการเดินทางได้เพียงชี้นิ้วใกล้หน้าจอโดยไม่ต้องสัมผัส โดยเป็นการนำเซนเซอร์ลักษณะนี้มาใช้ในสนามบินทั่วไปเป็นครั้งแรก
สำหรับผู้ที่ต้องการเช็กอินที่เคาน์เตอร์ของเจ้าหน้าที่บริการลูกค้า จะมีการติดตั้งแผ่นอะคริลิกใสกั้นระหว่างผู้โดยสารและผู้ให้บริการ
นอกจากนี้สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ICA) ได้พัฒนาช่องทางตรวจสอบเอกสารเข้าเมืองอัตโนมัติที่ท่าอากาศยาน โดยใช้ระบบระบุข้อมูลอัตลักษณ์บุคคล (biometric) ระบบใหม่ ซึ่งนำเทคโนโลยีตรวจจับใบหน้าและม่านตามาใช้เป็นวิธีหลักในการยืนยันตัวตน แทนที่การสแกนลายนิ้วมือแบบเดิม
ด้านชางงี แอร์พอร์ต กรุ๊ป หรือซีเอจี (CAG) รัฐวิสาหกิจผู้บริหารท่าอากาศยาน จะนำเทคโนโลยีรูปแบบใหม่มาใช้ในการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อในพื้นที่ท่าอากาศยาน โดยหุ่นยนต์ทำความสะอาดอัตโนมัติในอาคารผู้โดยสารถูกพัฒนาด้วยการติดตั้งหัวฉีดละอองน้ำยาฆ่าเชื้อ เพื่อเสริมการป้องกันตามพื้นพรมและพื้นปกติระหว่างการทำความสะอาด
นอกจากนั้นซีเอจีกำลังทดสอบการใช้งานหลอดไฟแอลอีดีฉายรังสียูวี-ซี (UV-C) สำหรับฆ่าเชื้อบริเวณราวจับของบันไดเลื่อน และทดสอบการใช้งานเทคโนโลยีอินฟราเรดไร้สัมผัสในลิฟต์ผู้โดยสาร ซึ่งผู้โดยสารสามารถสั่งงานปุ่มได้เพียงชี้นิ้วใกล้ๆ
ตัน ไล เต็ก (Tan Lye Teck) รองประธานบริหารท่าอากาศยานชางงี ฝ่ายการจัดการท่าอากาศยาน ระบุว่าการพัฒนาต่างๆ ครั้งนี้สะท้อนความรับผิดชอบของซีเอจีที่มีต่อสุขภาพของผู้โดยสารและประสบการณ์ที่ดีในการใช้บริการท่าอากาศยานอย่างต่อเนื่อง และซีเอจีจะทำงานร่วมกับหุ้นส่วนการบินรายอื่นๆ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นระดับสูงในกลุ่มผู้เดินทางผ่านท่าอากาศยาน เมื่อกลับมาเปิดบริการอีกครั้ง
ทั้งนี้ ท่าอากาศยานชางงีระงับการให้บริการอาคารผู้โดยสาร 2 แห่ง จากทั้งหมด 4 แห่งชั่วคราว สืบเนื่องจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19