Zhong Ming เป็นประธานบริษัทใหม่ที่เพิ่งเข้าตลาดหุ้นฮ่องกงเมื่อวันที่ 28 มิถุนายนที่ผ่านมา บริษัทดาวรุ่งน้องใหม่นี้เป็นผู้จัดจำหน่ายเครื่องมือแพทย์สัญชาติจีน ซึ่งปรากฏว่ากระแสตอบรับดีเยี่ยมจนทำให้เกิดเป็นเศรษฐีคนใหม่ล่าสุดของประเทศไปเรียบร้อยโรงเรียนจีน
บริษัทนี้มีชื่อว่า Kangji Medical Holding หุ้นของบริษัทก้าวกระโดดเกือบ 2 เท่าในการซื้อขายช่วงแรกจากราคาเปิด IPO ที่ 13.88 เหรียญฮ่องกง (ราว 55.88 บาท) โดยปีนขึ้นไปที่ 26.60 เหรียญหรือ 107 บาท สัดส่วนการถือหุ้นเกือบ 1 ใน 3 ส่งให้ท่านประธาน Zhong Ming มีทรัพย์สินมูลค่าไม่ต่ำกว่า 10,900 ล้านเหรียญฮ่องกง หรือ 1,400 ล้านเหรียญสหรัฐ
บริษัท Kangji นั้นเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องมือผ่าตัดและอุปกรณ์จับดึงเนื้อเยื่อที่ออกแบบให้ผู้ป่วยเป็นแผลน้อยที่สุด Minimally invasive surgeries (MIS) ผลิตภัณฑ์หลักได้แก่ trocar และ forcep
ตลาดเครื่องมือแพทย์จีนโตแรง
การผ่าตัดที่มีการบุกรุกน้อยที่สุดหรือ MIS ที่ดำเนินการในประเทศจีนนั้นถือว่ายังไม่แพร่หลายมากเท่าสหรัฐฯ เมื่อเทียบกับประชากรของประเทศ ดังนั้นตลาดนี้จึงถูกมองว่ามีช่องว่างให้ขยายตัวอีกมาก และจะเป็นเทรนด์ที่เติบโตไปพร้อมกับเศรษฐกิจจีน
สถิติชี้ว่าตลาด MIS ในประเทศจีนช่วงปี 2019 นั้นมีการดำเนินการที่ 38.1% เท่านั้น ถือว่าต่ำมากเมื่อเทียบกับ 80.1% ในสหรัฐอเมริกา โดยข้อมูลเหล่านี้เป็นตัวเลขจากบริษัทที่ปรึกษาอุตสาหกรรมเชิงลึกของจีน ที่ตีพิมพ์รายงานวิเคราะห์ภาพรวมธุรกิจของบริษัท Kangji
นอกจากนี้ Kangji ยังมีปัจจัยขับเคลื่อนหลักเรื่องการจำนวนการผ่าตัดที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการผ่าตัดแบบ MIS ที่จะเพิ่มขึ้นและแพร่หลายมากกว่าเดิมในประเทศจีน เบื้องต้นคาดว่าตลาด MIS จะมีอัตราใช้บริการ หรือ penetration rate ทะลุ 49.0% ในปี 2024
สิ่งที่เกิดขึ้นจะช่วยให้ตลาดเครื่องมือผ่าตัดและอุปกรณ์เสริมที่เกี่ยวข้อง มีการเติบโตขึ้น 17% ต่อปีเริ่มตั้งแต่ปี 2019 มีโอกาสถึงระดับ 40,800 ล้านหยวนภายในปี 2024
ปัจจุบันตลาด minimally invasive surgical instruments and accessories หรือ MISIA ของจีนถูกครอบครองโดยแบรนด์ต่างชาติ โดยเฉพาะในแง่ของรายได้จากการขาย แต่บริษัท Kangji เชื่อว่าจะสามารถเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดได้ ท่ามกลางคู่แข่งในตลาด forcep ทั่วโลก
สำหรับยอดขายของ Kangji ในปี 2019 นั้นเพิ่มขึ้นเป็น 503 ล้านหยวนจาก 354 ล้านหยวนในปีที่แล้ว กำไรสุทธิอยู่ที่ 206 ล้านหยวนเมื่อเทียบกับ 147 ล้านหยวนในปี 2018
ความน่าสนใจในการผงาดของ Kangji คือแนวโน้มตลาดการแพทย์จีนที่จะร้อนแรงชัดเจนในช่วงนับจากนี้ เพราะหุ้นด้านเภสัชกรรมและธุรกิจด้านการดูแลสุขภาพของจีนนั้นได้รับความสนใจจากนักลงทุนสูงในช่วงการระบาดของ Covid-19 ก่อนหน้านี้ ธุรกิจเฮลท์แคร์ยังได้รับประโยชน์จากความต้องการที่เพิ่มขึ้นในประเทศ ท่ามกลางรายได้ที่เพิ่มขึ้น และการชราภาพของประชากรในประเทศจีน
และหากบริษัทจีนสามารถพัฒนาวัคซีน Covid-19 ได้ อุตสาหกรรมเฮลท์แคร์จีนจะยิ่งเติบโตกระฉูดขึ้นไปอีก โดยปัจจุบัน มีหลายบริษัทจีนพยายามเดินหน้าพัฒนาวัคซีนด้วยตัวเอง ทั้ง Xiamen Innovax Biotech ซึ่งทำงานร่วมกับ GlaxoSmithKline ขณะที่บริษัท CanSino Biologics ทำงานร่วมกับสถาบันวิทยาศาสตร์การทหารของจีน Chinese Academy of Military Sciences ยังมีบริษัท Sinopharm ซึ่งเป็นพันธมิตรกับสถาบันผลิตภัณฑ์ชีวภาพหวู่ฮั่น Wuhan Institute of Biological products รวมถึงบริษัท Sinovac และ Clover Biopharmaceuticals ซึ่งนอกเหนือจาก GSK แล้วยังทำงานร่วมกับ Dynamax Technologies ของสหรัฐอเมริกาด้วย
บทสรุปอีกอย่างของปรากฏการณ์นี้ คือประเทศจีนยังคงเป็นที่ 2 รองจากสหรัฐอเมริกา ที่เป็นดินแดนซึ่งมีมหาเศรษฐีจำนวนมากที่สุดในโลก.
ที่มา :