เบนซ์ บีเคเค กรุ๊ป เปิดตัวโชว์รูมเบนซ์ Mercedes-Benz Experience Center ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย ก่อสร้างตึก 12 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 50,000 ตร.ม. บนถนนบางนา-ตราด จัดแสดงรถได้มากกว่า 120 คัน พร้อมพื้นที่บริการลูกค้าตั้งแต่ร้านกาแฟ co-working space ฟิตเนส จนถึงแจสบาร์ สร้างประสบการณ์สถานะผู้เป็นเจ้าของรถ Mercedes-Benz
เพราะการซื้อรถหรูไม่ใช่แค่เลือกสมรรถนะของรถ แต่เป็นการซื้อสถานะและประสบการณ์ที่ได้จากแบรนด์รถ ทำให้ดีลเลอร์ เบนซ์ บีเคเค กรุ๊ป ลงทุน 3,000 ล้านบาท เปิดโชว์รูมและศูนย์บริการ Mercedes-Benz Experience Center ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย บนถนนบางนา-ตราด กม.4.2 โดยเริ่มแผนงานเมื่อปี 2561 มาก่อสร้างเสร็จปีนี้ จะให้บริการครบสมบูรณ์ภายในเดือนตุลาคม 2563
จากพื้นที่ทั้งหมด 4 ไร่ ก่อสร้างเป็นตึก 12 ชั้น ความสูงพื้นถึงเพดานชั้นละ 5.5 เมตรเพื่อความโอ่โถง ตั้งแต่ชั้น 1-8 เป็นโชว์รูมรถทั้ง Mercedes-Benz, Mercedes-AMG และ Mercedes-Benz Certified (รถมือสอง) รองรับได้มากกว่า 120 คัน รวมถึงมีสิ่งอำนวยความสะดวกหลากหลาย ตั้งแต่มุมกาแฟ ฟิตเนส ห้องนวด ซิการ์บาร์ แจสบาร์ co-working space สกายเลาจน์ พื้นที่จัดงานอีเวนต์แสดงรถ และศูนย์บริการซ่อมสีตัวถังที่รองรับได้ 600 คันต่อเดือน ส่วนชั้น 9-12 จะเป็นสำนักงานใหญ่ของเบนซ์ บีเคเค กรุ๊ป
“ตวงรัตน์ ลิขิตพฤกษ์” กรรมการผู้จัดการ บริษัท เบนซ์ บีเคเค กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า นโยบายของ Mercedes-Benz ให้ความสำคัญกับการบริการและประสบการณ์ลูกค้ามาตลอด รวมถึงมองว่ากำลังซื้อลูกค้าไทยมีโอกาสเติบโต โดยเฉพาะย่านบางนา-ตราดที่มีโครงการอสังหาริมทรัพย์ใหม่ๆ เปิดตัว ทั้งแบงค็อก มอลล์ โครงการเดอะ ฟอเรสเทียส์ อาคารสำนักงานใหม่ของ AIA รวมถึงมีโรงเรียนนานาชาติเพิ่มขึ้นเป็น 15 แห่งแล้ว สะท้อนให้เห็นกำลังซื้อของย่านนี้
ดังนั้น เบนซ์ บีเคเคจึงต้องการสร้างให้สถานที่นี้เป็นแฟล็กชิพ เทียบเท่ากับโชว์รูมขนาดใหญ่อย่างในเบอร์ลิน เยอรมนี หรือลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อมองจากบนทางด่วนบูรพาวิถีจะเห็นรถ Mercedes-Benz จอดเรียงรายด้านหลังกระจกตั้งแต่ชั้น 1-7 ของตึก และโลโก้ดาวสามแฉกของ Mercedes-Benz ที่โดดเด่นบนยอดตึก ช่วยสร้างแบรนดิ้งในใจลูกค้า
ประสบการณ์ของการเป็นเจ้าของ Mercedes-Benz
“ที่บางนาจะเป็นเหมือนไอคอนสยามของเบนซ์ คือลูกค้ามาเพื่อรับประสบการณ์สำคัญของการได้ครอบครองเบนซ์” อนุพล ลิขิตพฤกษ์ไพศาล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เบนซ์ บีเคเค วิภาวดี จำกัด และ บริษัท บีเคเค ออโตเฮาส์ กาญจนาภิเษก จำกัด กล่าว “เรื่อง CSI (Customer Satisfaction Index) เป็นเรื่องที่ต้องอยู่ในทุกขั้นตอน ทุกวัน ทาง Mercedes-Benz มีการมาวัดผลเราทุก 6 เดือนว่าลูกค้าพึงพอใจไหม และเป็นจุดสำคัญเพราะเรื่องราคาแต่ละเจ้าก็พอๆ กัน”
ตวงรัตน์กล่าวต่อว่า ก่อนมาถึงการพัฒนาโชว์รูมใหม่ที่บางนา เบนซ์ บีเคเคมีการเสริมประสบการณ์ลูกค้ามาตลอด เช่น การจัด BKK Cafe ไว้ในโชว์รูม เป็นมุมกาแฟสดคุณภาพดีไว้คอยบริการลูกค้าฟรีระหว่างมารอรับรถ ซึ่งได้ผลตอบรับที่ดี ลูกค้าชื่นชอบ ดังนั้น เมื่อจะสร้างโชว์รูมที่ใหญ่ขึ้นอีกขั้น จึงมีการคุยกับลูกค้าว่ามองหาอะไรในการมาที่โชว์รูม จนมาเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกเหล่านี้
“โชว์รูมนี้จะทำให้เหมาะกับคนรุ่นใหม่มากขึ้น การนั่งรอรับรถ 2-3 ชั่วโมงเวลามาใช้บริการจะไม่น่าเบื่ออีกต่อไป” ตวงรัตน์กล่าว
ยกตัวอย่างบริการ co-working space และห้องประชุมบนชั้น 3 น่าจะได้รับความสนใจมาก เพราะลูกค้า Mercedes-Benz ‘เวลาเป็นเงินเป็นทอง’ ช่วงที่ต้องมารอรับรถ หลายคนต้องการนั่งทำงานไปด้วย หรือสามารถนัดประชุมคุยธุรกิจได้ กลุ่มคุณแม่ก็สามารถมานั่งจิบกาแฟคุยกันระหว่างรอได้
ส่วนซิการ์บาร์และแจสบาร์ บริการนี้จะเจาะกลุ่มลูกค้า Mercedes-AMG กลุ่มลูกค้ารถสปอร์ตสจะมีไลฟ์สไตล์อีกแบบ การนั่งคุยกันต้องการบรรยากาศที่เป็นกันเองมากขึ้น
บริการเหล่านี้สามารถเข้ามาใช้ได้ฟรีหากเป็นลูกค้าเบนซ์ บีเคเค จะได้รับ “พริวิลเลจ การ์ด” สำหรับแสดงตน กลายเป็นจุดแข็งที่ใช้แข่งขันกับดีลเลอร์เบนซ์เจ้าอื่นในตลาด รวมถึงยี่ห้อรถหรูอื่นๆ ที่เป็นคู่แข่ง
ทั้งนี้ ไม่ใช่แค่เบนซ์ บีเคเค กรุ๊ปที่ลงทุนสร้างโชว์รูมใหม่เสริมประสบการณ์ลูกค้า ดีลเลอร์เจ้าอื่นๆ ก็มีการลงทุนเช่นกันอย่าง ไพรม์มัส ออโต้เฮาส์ ที่ลงทุนโชว์รูมเบนซ์สุดหรูบนถนนเลียบด่วนเอกมัย-รามอินทราเปิดตัวเมื่อปีก่อน หรือ กลุ่มเบนซ์ตลิ่งชัน ที่เปิดโชว์รูมแอทต้า ออโต้เฮ้าส์ บนถนนราชพฤกษ์เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ชูคอนเซปต์เทคโนโลยีล้ำสมัยในศูนย์
เตรียมปรับปรุงสาขาวิภาวดี-กาญจนาภิเษกต่อ
สำหรับสาขาอื่นของโชว์รูมเบนซ์ บีเคเค ทั้งวิภาวดีและกาญจนาภิเษกต่างมีแผนปรับปรุงขยายพื้นที่เพิ่ม ตวงรัตน์กล่าวว่า ที่สาขาวิภาวดี ปัจจุบันมีพื้นที่แสดงรถ 10,000 ตร.ม. ขณะนี้ได้เซ้งพื้นที่เดิมของสำนักพิมพ์บ้านเมืองระยะ 30 ปี คาดว่าจะขยายพื้นที่เพิ่มเป็น 20,000 ตร.ม. ได้ ส่วนสาขากาญจนาภิเษกมีพื้นที่ 25,000 ตร.ม. และกำลังพิจารณาขยายเพิ่มต่อไป เพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต
อย่างไรก็ตาม ปี 2563 นี้ Mercedes-Benz มีการตัดเป้าหมายยอดขายรวมทั้งประเทศลงไปแล้ว 30% เนื่องจากสถานการณ์ COVID-19 ทำให้คงเหลือเป้าปีนี้ที่ 16,800 คัน (ไม่รวม Mercedes-AMG และ Certified) เบนซ์ บีเคเค ซึ่งได้โควตาขายปีละ 18-20% ของเป้ายอดขายรวมทั้งประเทศจึงจะถูกลดจำนวนขายลงไปด้วย เท่ากับได้โควตาขายไม่เกิน 3,360 คัน แต่ยังมีส่วนของรถมือสอง Certified มาเสริมทัพ โดยเบนซ์ บีเคเคตั้งเป้าที่ 200 คันในปีนี้
แม้ปีนี้จะเผชิญ COVID-19 ทำให้ยอดขายสะดุดไป 1-2 เดือนทั้งที่เป็นปีเปิดตัวโชว์รูมขนาดใหญ่ แต่ตวงรัตน์มองว่า Mercedes-Benz เป็นแบรนด์ที่ฟื้นตัวได้เร็วกว่าหากเทียบกับรถยนต์ตลาดแมส ลูกค้ากลับมาคึกคักแล้วเพราะที่ผ่านมาเพียงแต่ชะลอตัดสินใจ ไม่ถึงกับยกเลิกการซื้อ คาดว่าไตรมาส 3-4 ปีนี้จะเห็นยอดขายที่ดีขึ้น