(สำนักข่าวซินหัว) เมอร์เซเดส-เบนซ์ ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติเยอรมัน เปิดเผยยอดจำหน่ายรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ช่วงไตรมาสแรกของปี 2022 ลดลง 15% เมื่อเทียบปีต่อปี อยู่ที่ 501,600 คัน โดยสาเหตุหลักมาจากปัญหาขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ (semiconductor) หรือสารกึ่งตัวนำ
ทว่ายอดจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ช่วงสามเดือนแรก เพิ่มขึ้น 37% อยู่ที่ 67,800 คัน ครองส่วนแบ่ง 15% ของยอดจำหน่ายทั้งหมด ส่วนยอดจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ (BEV) พุ่งขึ้น 210% อยู่ที่ 21,900 คัน
ยอดจำหน่ายของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ช่วงไตรมาสแรก ในจีนที่เป็นตลาดเดี่ยวขนาดใหญ่ที่สุดของบริษัทอยู่ที่ 192,700 คัน และในตลาดยุโรปอยู่ที่ 151,000 คัน ซึ่งลดลง 14% เมื่อเทียบปีต่อปี ขณะยอดจำหน่ายในสหรัฐฯ ลดลง 20% อยู่ที่ 62,300 คัน
เมอร์เซเดส-เบนซ์ ชี้ว่าสถานการณ์ภาพรวมยังคงผันผวน แม้อุปสงค์จากลูกค้าทรงตัว เนื่องด้วยสภาวการณ์ทางการเมืองที่ไม่แน่นอน กอปรกับข้อจำกัดต่อเนื่องเพื่อควบคุมการระบาดใหญ่ของโรคติดเชื้อ COVID-19