‘ไมโครซอฟท์’ (Microsoft) ยักษ์ใหญ่ไอทีได้เปิดเผยรายได้ในไตรมาส 4/2020 (เม.ย – มิ.ย.632) โดยมีรายได้อยู่ที่ 3.80 หมื่นล้านดอลลาร์เติบโต 13% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และเติบโตขึ้น 15% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา มีกำไรสุทธิ 11,202 ล้านดอลลาร์
ไมโครซอฟท์ เผยว่า กลุ่มธุรกิจ Intelligent Cloud ซึ่งรวมถึง Azure Public Cloud, Windows Server, SQL Server, GitHub และบริการขององค์กรมีรายได้อยู่ที่ 1.3 หมื่นล้านดอลลาร์ เติบโต 17% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา แต่ในส่วนของ Azure เติบโตเพียง 47% ขณะที่ไตรมาสก่อนเติบโต 59% ซึ่งเป็นผลมาจากค่าใช้จ่ายด้านทุนที่สูงถึง 5.8 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวเมื่อสามปีก่อน เนื่องจากบริษัทมีเป้าหมายที่จะขยายโครงสร้างพื้นฐานของ Azure
ด้านซอฟต์แวร์เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ได้แก่ Office, Dynamics และ LinkedIn มีส่วนสร้างรายรับได้ 1.18 หมื่นดอลลาร์ เติบโต 6% ขณะที่รายได้ของ LinkedIn เติบโตเพียง 10% ซึ่งเป็นการเติบโตที่ช้าที่สุดนับตั้งแต่ปี 2559 เนื่องจาก การจ้างงานและการใช้จ่ายด้านโฆษณาที่น้อยลง
ส่วนสินค้าฮาร์ดแวร์ อาทิ Surface และ Xbox มีรายได้ 1.29 หมื่นล้านดอลลาร์ เติบโตกว่า 14% โดยรายได้จากเนื้อหาและบริการ Xbox เติบโต 65% เนื่องจากมาตรการล็อกดาวน์ทำให้คนอยู่บ้านและเล่นเกมมากขึ้น ขณะที่ยอดขายไลเซ่นส์ Windows เชิงพาณิชย์หดตัว 4% ซึ่งเป็นการเติบโตที่ช้าที่สุดนับตั้งแต่ปี 2559
อ่าน >>> ‘LinkedIn’ แพลตฟอร์มหางาน เตรียม ‘ปลดพนักงาน’ 960 ราย เหตุบริษัททั่วโลกเบรกจ้างงานเพราะ Covid-19
ทั้งนี้ รายได้ของบริษัทลดลงเล็กน้อยจากการเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์การค้าปลีกของ Microsoft ในที่ปิดหน้าร้านค้าทั้งหมด รวมถึงปิดบริการสตรีมมิ่งวิดีโอเกม ‘MIXER’ อีกทั้งได้ประกาศการเข้าซื้อกิจการของ CyberX, Metaswitch และ Softomotive อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์คาดว่าไมโครซอฟท์จะกลับสู่การเติบโตปกติในช่วงครึ่งปีหลัง