เมื่อเดือนที่ผ่านมา ‘ไนกี้’ (NIKE) ได้รายงานผลประกอบการเมื่อเดือนที่แล้วว่าว่ามีรายได้อยู่ที่ 6.31 พันล้านดอลลาร์ ลดลงมากถึง -38% โดยมียอดขาดทุนสุทธิ 790 ล้านดอลลาร์ ซึ่งสาเหตุหลัก ๆ มาจาก Covid-19 ที่ทำให้ปิดร้านค้าส่วนใหญ่ทั่วโลกต้องปิดตัวลง แต่ยอดขายดิจิทัลของไนกี้เพิ่มขึ้น 75% หรือคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 30% ของรายรับทั้งหมด ส่งผลให้ไนกี้บอกว่าจะเตรียมลดจำนวนพนักงานลง เพื่อมุ่งสู่ออนไลน์เต็มตัว
ล่าสุด ‘ไนกี้’ ได้ประกาศการเปลี่ยนแปลงผู้บริหารจำนวนมาก รวมถึงได้ลดจำนวนพนักงาน ตามที่เคยประกาศก่อนหน้านี้ เพื่อมุ่งเน้นไปที่ธุรกิจดิจิทัลและขายตรงให้กับลูกค้ามากขึ้น เนื่องจากการระบาดใหญ่ของ Covid-19 ที่เปลี่ยนพฤติกรรมการซื้อ
ไนกี้ กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจะนำไปสู่ “การเลิกจ้างทั่วทั้งบริษัท” ซึ่งจะส่งผลให้มีค่าใช้จ่ายในการเลิกจ้างพนักงานชั่วคราวก่อนหักภาษีประมาณ 200 – 250 ล้านเหรียญสหรัฐ ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2019 Nike มีพนักงานประมาณ 76,700 คนทั่วโลกตามรายงานประจำปี อย่างไรก็ตาม ทางไนกี้ปฏิเสธที่จะเปิดเผยว่าได้รับผลกระทบมากแค่ไหน แต่ยืนยันว่านี่ไม่ใช่การลดต้นทุน และมีจุดประสงค์เพื่อลงทุนทรัพยากรในส่วนที่แข็งแกร่งของธุรกิจ
นอกจากการลดจำนวนพนักงานแล้ว ไนกี้ยังมีการปรับเปลี่ยนผู้บริหารในหลายตำแหน่ง โดย John Donahoe ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของไนกี้ กล่าวในแถลงการณ์ว่า “เรากำลังประกาศการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพื่อเปลี่ยน Nike ให้เดินหน้าได้เร็วขึ้น เร่งโอกาสในการเติบโตที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเราและขยายตำแหน่งความเป็นผู้นำของเรา และตอนนี้เป็นเวลาที่เหมาะสมในการเสริมสร้างจุดแข็งของ Nike และยกระดับกลุ่มผู้นำที่มีความสามารถและมีประสบการณ์ซึ่งสามารถช่วยผลักดันการเติบโตในระยะต่อไปของเรา”
อย่างไรก็ตาม แม้ไนกี้จะได้รับผลกระทบเหมือนกับแบรนด์แฟชั่นอื่น ๆ ทั่วโลก แต่ไนกี้ยังคงถูกมองว่าเป็นหนึ่งในผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในอุตสาหกรรม โดยหุ้นไนกี้ลดลงต่ำกว่า 1% ในการซื้อขายช่วงเช้า และตกลงประมาณ 3% ในปีนี้ ปัจจุบันไนกี้มีมูลค่าตลาด 153 พันล้านเหรียญสหรัฐ