เศรษฐกิจสหรัฐฯ พังครืนท่ามกลางวิกฤตโรคระบาดใหญ่ไวรัส COVID-19 ทำสถิติหดตัวรุนแรงสุดตั้งแต่มีการบันทึกมา ขณะที่ความหวังของการฟื้นตัวมีอันต้องสะดุดอีกครั้ง หลังพบคนตกงานเพิ่มขึ้น
ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) หดตัว 32.9% แม้จะแย่กว่าคาดหมายไว้เล็กน้อย แต่มันถือเป็นการหดตัวครั้งเลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่ปี 1947 ของชาติเศรษฐกิจยักษ์ใหญ่
หลังจากหดตัว 5.0% ในไตรมาสแรกของปี 2020 นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า GDP ของสหรัฐฯ จะหดตัวลงราวๆ 35% หรือมากกว่านั้น ท่ามกลางมาตรการจำกัดการเดินทางและปิดธุรกิจสกัดการแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่ทำประชาชนหลายสิบล้านคนต้องตกงาน
ปัจจัยหลักในการดิ่งลงของ GDP ก็คือตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคซึ่งเป็นสัดส่วนใหญ่สุดของเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยพบการใช้จ่ายผู้บริโภคลดลง 34.6% เมื่อเทียบเป็นรายปี
จากการเปรียบเทียบกับไตรมาสที่เลวร้ายที่สุดในช่วงวิกฤตการเงินโลกในปี 2008 พบว่า ตอนนั้น GDP หดตัวเพียง 8.4% ในไตรมาสที่ 4 ของปีดังกล่าว ขณะที่จุดต่ำสุดอีกครั้งหนึ่งคือการหดตัว 10% ในไตรมาสแรกของปี 1958
การรายงานครั้งนี้เป็นการเน้นย้ำให้เห็นว่าไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ได้ทำร้ายธุรกิจทั่วสหรัฐฯ และยังทำให้ชาวอเมริกันหลายล้านคนต้องตกงาน และตัวเลขดังกล่าวยังแสดงให้เห็นถึงขอบเขตความเสียหายเลวร้ายทางเศรษฐกิจ อันเป็นผลมาจากการบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์และคำสั่งหยุดอยู่บ้าน เพื่อสกัดการแพร่ระบาด
แม้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยังคงให้คำมั่นเกี่ยวกับการฟื้นต้วอย่างฉันพลัน แต่ในขณะเดียวกันนั้น ตัวเลขผู้ติดเชื้อ COVID-19 กลับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา กัดกร่อนสัญญาณการฟื้นตัวก่อนหน้านี้ และกดดันให้เจ้าหน้าที่ในบางรัฐต้องหวนบังคับใช้มาตรการเข้มงวดอีกรอบ
อีกด้านหนึ่งข้อมูลของกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ บ่งชี้ว่าตัวเลขเบื้องต้นของผู้ขอรับสวัสดิการคนว่างงานรายใหม่เพิ่มขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากก่อนหน้านี้ลดลงมาหลายสัปดาห์ติด โหมกระพือเสียงเรียกร้องรอบใหม่ให้สภาคองเกรสผ่านแผนใช้จ่ายฉุกเฉินรอบใหม่เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจโดยทันที
หลังจากยอดผู้ขอรับสวัสดิการคนว่างงานเพิ่มสูงขึ้นในเดือนมีนาคม ท่ามกลางคนตกงานจำนวนมากในช่วงต้นของโรคระบาดใหญ่ ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการคนว่างงานครั้งแรกได้ลดลงมาหลายสัปดาห์ติด ทว่ามันได้กลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้งเป็น 1.43 ล้านคนในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 25 กรกฎาคม จากข้อมูลของกระทรวงแรงงาน
ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกยังคงมีจำนวนมากกว่า 1 ล้านรายติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 19 แม้ว่ารัฐต่างๆ ได้เริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ และได้เปิดเศรษฐกิจครั้งใหม่
รวมแล้วจำนวนชาวอเมริกันที่ยังคงขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่องเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 17.018 ล้านรายในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 18 กรกฎาคม หลังจากพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์สู่ระดับ 24.912 ล้านรายในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม ขณะที่อัตราคนว่างงานเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 11.6% ในสัปดาห์เดียวกัน
เวลานี้สภาคองเกรสกำลังติดหล่มในประเด็นโต้เถียงเกี่ยวกับขนาด และองค์ประกอบของร่างใช้จ่ายฉุกเฉินรอบต่อไป โดยทางเดโมแครตกำลังต่อสู้เพื่อให้รักษาวงเงินช่วยเหลือผู้ว่างงานไว้ที่ระดับ 600 ดอลลาร์ต่อสัปดาห์ ส่วนรีพับลิกันต้องการลดการจ่ายเงิน และเสนอมาตรการปกป้องธุรกิจต่างๆ ที่กลับมาเปิดบริการ ในกรณีที่มีพนักงานบางส่วนติดเชื้อ