คนที่ได้ขึ้น”บอลลูน” จะรู้สึกใกล้ชิดท้องฟ้า สำหรับ”นักบิน” ผู้ทำหน้าที่ขับเคลื่อน”บอลลูน” ได้ความรู้สึก”สุขใจ” เพราะสามารถควบคุมได้เกือบทุกอย่าง และยอมรับกับสิ่งที่ควบคุมไม่ได้คือ”กระแสลม” อย่างเดียวเท่านั้น
นี่คือความหลงใหลที่ทำให้”ยุทธ วาณิชชานนท์” ” กรรมการผู้จัดการบริษัทเอิร์ทวินด์ แอนด์ ไฟร์ จำกัด และภรรยา” ทิ้งทุกอย่างในกรุงเทพ ปักหลักที่จ.เชียงใหม่ เปิดธุรกิจบอลลูนเมื่อ 20 ปีที่แล้ว หลังจากทำธุรกิจหลายอย่างแล้วต้องเลิกราไป และด้วยความชอบส่วนตัวเรื่องการบิน ด้วยพื้นฐานจบการศึกษาด้านการวางแผนการบินที่สหรัฐอเมริกา และได้รับใบอนุญาตการบินบอลลูนอากาศร้อนคนแรกของไทย
หลายคนไปเชียงใหม่ อาจเคยได้ใช้บริการบอลลูนของ”เอิร์ทวินด์” ซึ่ง”ยุทธ” บอกว่ารายได้ไม่ได้ทำให้ร่ำรวยได้มากนัก แต่ก็เป็นตลาด Niche ที่ยังพอมีโอกาสำหรับธุรกิจใหม่ ๆ
สำหรับต้นทุนสร้างบอลลูนเฉลี่ย 4-5 ล้านบาท มีค่าบำรุงรักษาอีกส่วนหนึ่ง ส่วนค่าบริการผู้ที่จะมาขึ้นบอลลูนคือคนละ 1 หมื่นบาทเท่านั้น ในเวลา 1 ชั่วโมง
กำไรไม่มาก แต่ไม่ใช่ปัญหา เพราะความสุขที่”ยุทธ” บอกคือการมีส่วนปลุกกระแสท่องเที่ยวให้คึกคัก เป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่อยากสัมผัสท้องฟ้า
สำหรับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแล้วจึงไม่มีใครไม่รู้จัก”ยุทธ เอร์ทวินด์ฯ” และเริ่มขยายวงกว้างมากขึ้นเมื่อร่วมกับเคทีซี จัดวิวาห์บนบออลลูน 14 คู่ เมื่อเดือนมีนาคม 2551 มาจนถึงวงการรถยนต์อย่างค่าย”ฟอร์ด” ที่หนีจากทั้ง Above the line และ Below the line หันสร้างความฮือฮาด้วยอีเวนท์ On sky the line ให้บอลลูนยกรถลอยเด่นขึ้นบนฟ้า แม้จะนิ่งอยู่กับที่ต้องการเตะตากลุ่มเป้าหมายได้มากมาย
และแน่นอนในเทศกาลบอลลูนนานาชาติ “Thailand International Balloon Festival 2008” วันที่ 3-7 ธันวาคม 2551 ที่เขาใหญ่ จะยิ่งอลังกากว่าเดิม หากวัดจากจำนวนบอลลูนอย่างเดียวก็มากถึง 60 ลูก ทั้งจากสหรัฐ อังกฤษ เยอรมันี ฝรั่งเศส มาเลเซีย มากกว่าปีที่แล้วที่มีเพียง 40 ลูก
งานนี้ “บอลลูน” นอกจากสร้าง”ความสุข”ให้หลาย ๆ คน แล้ว ยังกลายเป็นสื่อใหม่ที่น่าลอง และสำหรับ 2 สามีภรรยาที่เลือกความสุขเป็นหลัก จนสามารถต่อยอดสร้างธุรกิจ เป็นทางเลือกใหม่ในยุคที่การตลาดต้องหาสีสันใหม่ ๆ จึงลงตัวกันอย่างพอดี