ประกาศถึงวิสัยทัศน์ในการนำ ‘5G’ เพื่อสนับสนุนรากฐานและฟื้นฟูประเทศจากวิกฤติ COVID-19 ไปเมื่อวันที่ 25 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยหนึ่งในเรื่องที่ ‘เอไอเอส’ (AIS) ได้พูดถึงก็คือ อุตสาหกรรมมัลติมีเดีย ที่จะนำเทคโนโลยี AR/VR มาใช้สร้างประสบการณ์เสพคอนเทนต์แบบใหม่ที่เสมือนจริง (Immersive Experience) กว่าที่เคย
ปรัธนา ลีลพนัง หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มลูกค้าทั่วไป บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (เอไอเอส) กล่าวว่า นับตั้งแต่การเปิดให้บริการ 5G อย่างเป็นทางการเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2563 ที่ผ่านมา ปัจจุบัน เอไอเอให้บริการ 5G ครบ 77 จังหวัด ผ่านสถานีฐาน 4,000 แห่ง ที่กระจายอยู่ที่กรุงเทพฯ และหัวเมืองใหญ่ และเพื่อเป็นการต่อยอดศักยภาพและขยายประโยชน์ของ 5G จึงได้ผสานเข้ากับเทคโนโลยีแห่งโลกอนาคต Virtual Reality หรือ VR
“เอนเตอร์เทนต์เมนต์เป็นอะไรที่แมสกว่า มันจับต้องได้ แต่ใจเราก็อยากจะพัฒนาควบคู่กันไปกับด้านอุตสาหกรรม”
เอไอเอสได้ดำเนินยุทธศาสตร์ ‘Co-Creation’ ภายใต้ชื่อ AIS VR Originals โดยเปิดกว้างที่จะร่วมมือกับพันธมิตรในวงการ ทั้งค่ายผลิตคอนเทนต์ชื่อดัง พันธมิตรชั้นนำระดับโลก และ Content Creator อิสระรุ่นใหม่ทุกคน เพื่อผลิต VR Content ร่วมกัน ผ่านแอปพลิเคชัน AIS PLAY VR ฮับแห่งคอนเทนต์ VR ที่แรกและที่เดียวในไทย ซึ่งถูกติดตั้งบนแว่น AIS VR 4K พร้อมกับออกแพ็กเกจและโปรโมชั่นที่เกี่ยวกับ 5G เชิงพาณิชย์เป็นครั้งแรก
ที่ผ่านมา เอไอเอสได้ร่วมกับ ‘นาดาวบางกอก’ นำศิลปินมาร่วมสร้างสรรค์ VR Content นำโดย บิวกิ้น-พีพี กับคอนเทนต์ชุด #BilkinPP Closer Than Ever และ สกาย วงศ์รวี กับคอนเทนต์ชุด Touch of Sky ถือเป็นการต่อยอดความสำเร็จของ VR Content ชุด Star Dating และได้จับมือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) นำร่องชมความงามของประเทศไทยใน 5 จังหวัด ได้แก่ บึงกาฬ พัทลุง ลำปาง ราชบุรี และตราด ในรูปแบบ VR 360 องศา และจับมือ Absolute You สร้างประสบการณ์การออกกำลังกายที่บ้านในรูปแบบ VR รวมมีคอนเทนต์กว่า 5,000 คอนเทนต์
“ในเรื่องรายได้ไม่ใช่เรื่องใหญ่ในระยะสั้น เพราะมันไม่ใช่ของแมส แต่รายได้หลักของเราคือ การใช้งานอินเทอร์เน็ต ดังนั้นการสร้างสรรค์คอนเทนต์บนอินเทอร์เน็ตมันจะสร้างรายได้ในทางอ้อม อีกทั้งยังเป็นการใช้โครงข่าย ดังนั้นนี่เป็นเหมือนจุดเริ่มต้นให้ได้สัมผัส 5G”
อย่างไรก็ตาม การจะสร้างการเติบโตให้ได้ ในขณะที่ยังต้องลงทุนอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันถือเป็นความท้าทายที่สุดในการทำธุรกิจ เพราะผู้บริโภคมีกำลังซื้อลดลง ขณะที่การแข่งขันที่รุนแรงยิ่งทวีความรุนแรง ทำให้เกิดการหั่นราคาจนลืมเรื่องคุณภาพ