ทางการท้องถิ่นไหหลำ เผยตัวเลขยอดจำหน่ายสินค้าปลอดภาษีบนเกาะช่วง 1 ก.ค.-18 ส.ค. เติบโตกว่า 250% ชี้เป็นผลมาจากมาตรการเพิ่มเพดานการซื้อสินค้าปลอดภาษี–ขยายประเภทสินค้า ตามเป้าดันเป็นท่าเรือค้าเสรีระดับโลก
ทางการท้องถิ่นมณฑลไหหลำ (ไห่หนาน) ทางตอนใต้ของจีน เปิดเผยว่ายอดจำหน่ายของร้านค้าปลอดภาษีนอกชายฝั่งบนเกาะไหหลำระหว่างวันที่ 1 ก.ค.-18 ส.ค. พุ่งสูงเกิน 5,000 ล้านหยวน หรือ ราว 22,600 ล้านบาท โดยคิดเป็นการเติบโตถึง 250% เมื่อเทียบกันปีต่อปี
ข้อมูลระบุว่าช่วงเวลาดังกล่าวร้านปลอดภาษีของไหหลำรองรับลูกค้าราว 740,000 คน เพิ่มขึ้น 70% เมื่อเทียบปีต่อปี ซึ่ง เฉิน ซี ผู้อำนวยการสำนักพาณิชย์มณฑลไหหลำ กล่าวว่า บรรดาลูกค้าต่างสนใจสินค้าปลอดภาษีประเภทใหม่ โดยสินค้าขายดีที่สุด ได้แก่ โทรศัพท์มือถือ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และแท็บเล็ต
ทั้งนี้ ยอดจำหน่ายรวมของสินค้าที่มีราคาสูงกว่า 8,000 หยวน (ราว 36,520 บาท) ต่อชิ้น อยู่ที่เกือบ 1,200 ล้านหยวน (ราว 5,440 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 420% เมื่อเทียบปีต่อปี โดยเฉินกล่าวว่า
“ผลิตภัณฑ์เหล่านี้มีบทบาทสำคัญในการดึงดูดผู้บริโภคที่ซื้อผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงจากต่างประเทศให้กลับมาซื้อผลิตภัณฑ์ในจีน”
ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2563 ไหหลำ ได้ขยายโควต้าในการซื้อสินค้าปลอดภาษีประจำปีต่อคนจาก 30,000 หยวน (ราว 135,000 บาท) เป็น 100,000 หยวน (ราว 453,000 บาท) นอกจากนี้ยังเพิ่มรายการสินค้าปลอดภาษีจาก 38 เป็น 45 ประเภท และยกเลิกเพดานราคาสินค้าปลอดภาษีที่ 8,000 หยวนต่อชิ้นอีกด้วย
ก่อนหน้านี้ จีนมีการเผยแพร่แผนแม่บทเมื่อต้นเดือนมิถุนายน 2563 โดยระบุว่า จะมุ่งสร้างไหหลำให้กลายเป็นท่าเรือการค้าเสรีที่มีอิทธิพลระดับโลก
