“ธนาซิตี้” โครงการอสังหาริมทรัพย์เก่าแก่ของเครือ BTS ริมถนนบางนา-ตราด เพิ่งรีโนเวตทางเข้า ถนน และระบบรักษาความปลอดภัยใหม่หมด โดยลงทุนไปกว่า 400 ล้านบาท แต่ปีนี้กลับมาเจอพิษ COVID-19 กระทบธุรกิจบริการส่วนสนามกอล์ฟ สปอร์ตคลับ และโรงแรม ทำให้ต้องเร่งจัดโปรโมชันดึงลูกค้าประคองตัว ส่วนแผนอนาคต มีพื้นที่อีก 200 ไร่ที่ซื้อเติมเข้ามา เตรียมพัฒนาโครงการเพิ่ม
ธนาซิตี้ เป็นโครงการมิกซ์ยูสในเครือบีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ ที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2536 บริเวณริมถนนบางนา-ตราด ใกล้กับสนามบินสุวรรณภูมิ โดยเริ่มจากการพัฒนาสนามกอล์ฟ 18 หลุมออกแบบโดย “เกร็ก นอร์แมน” พร้อมกับการขึ้นหมู่บ้านริมสนามกอล์ฟซึ่งเป็นที่นิยมมากในหมู่เศรษฐียุคนั้น ก่อนจะค่อยๆ ขยายเพิ่มสปอร์ตคลับและโรงแรม จนล่าสุดมีโรงเรียนนานาชาติเวอร์โซอยู่ด้านหน้าโครงการ
จนถึงปัจจุบัน พื้นที่ของธนาซิตี้มีทั้งหมด 2,000 ไร่ แบ่งตามประโยชน์ใช้สอย ดังนี้
- พื้นที่ที่อยู่อาศัยแนวราบ 11 โครงการ และคอนโดมิเนียม 3 โครงการ รวม 1,100 ไร่
- พื้นที่สนามกอล์ฟ สปอร์ตคลับ โรงแรม รวม 500 ไร่
- พื้นที่โรงเรียนนานาชาติเวอร์โซ 200 ไร่
- พื้นที่ว่างรอการพัฒนา 200 ไร่ (เป็นที่ดินใหม่ที่ซื้อเติมเข้ามาในพอร์ต)
ด้วยความเป็นโครงการเก่าอายุถึง 27 ปีแล้ว ล่าสุดบริษัทจึงลงทุนรีโนเวตระบบส่วนกลางใหม่ทั้งหมด โดยบริษัทมีการลงทุนสะสมกว่า 400 ล้านบาทในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา เพื่อทยอยปรับปรุงทางเข้าโครงการใหม่ให้สวยงาม ขยายถนนในโครงการ มีระบบอ่านป้ายทะเบียน และติดตั้งระบบกล้อง CCTV ใหม่ทั้งหมด เพื่อให้ระบบรักษาความปลอดภัยทันสมัย มีเทคโนโลยี AI ติดตามใบหน้าของบุคคลที่ต้องการได้
COVID-19 กระทบรายได้ 50-60%
เป็นโชคร้ายที่ธนาซิตี้เพิ่งลงทุนเสร็จใหม่แต่สถานการณ์ COVID-19 ก็ยังไม่คลี่คลาย โดย “สุรพันธ์ สมไทย” ผู้จัดการอาวุโส โครงการธนาซิตี้ คันทรี คลับ บริษัท ยูซิตี้ จำกัด (มหาชน) ในเครือบีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ เปิดเผยว่า ตั้งแต่เกิดสถานการณ์ COVID-19 ขึ้น ทำให้โครงการได้รับผลกระทบทุกส่วน คาดว่าจนถึงสิ้นปี 2563 รายได้รวมของโครงการน่าจะลดจากปีก่อน 50-60% และปีนี้เป้าหมายของบริษัทคือ “ประคองตัวไม่ให้ถึงขาดทุน” ให้สำเร็จ
ทั้งนี้ ธนาซิตี้ คันทรี คลับ จะรวมเฉพาะธุรกิจบริการคือ สนามกอล์ฟ สปอร์ตคลับ และ โรงแรมอีสติน ธนาซิตี้ กอล์ฟ รีสอร์ต กรุงเทพฯ ในส่วนที่อยู่อาศัยขายขาด ปัจจุบันเหลือขายไม่มาก และแบ่งแปลงขายเป็นที่ดินจัดสรร ไม่มีการก่อสร้างบ้านสำเร็จรูป
กลุ่มธุรกิจบริการเหล่านี้คือธุรกิจที่ได้รับผลกระทบ แต่กระทบมากน้อยต่างกัน ที่หนักที่สุดคือ “โรงแรม” ซึ่งสุรพันธ์กล่าวว่า แม้จนถึงปัจจุบันก็ยังแทบไม่ฟื้น เพราะปกติแขก 80% ของโรงแรมเป็นชาวต่างชาติ เช่น นักกอล์ฟ ผู้ที่เกี่ยวข้องกับสนามบิน/สายการบิน
ส่วนธุรกิจ “สนามกอล์ฟ” นั้นปกติลูกค้า 30-35% เป็นชาวต่างชาติ เช่น จีน เกาหลีใต้ สิงคโปร์ มาเลเซีย ญี่ปุ่น ที่มักจะบินเข้ามาออกรอบ ส่วนอีก 65-70% เป็นลูกค้าไทยและ expat ที่อาศัยอยู่ในไทยถาวร เมื่อเกิดโรคระบาด COVID-19 ทำให้ลูกค้ากลุ่มต่างชาติบินเข้ามาไม่ได้ทั้งหมด แต่เนื่องจากลูกค้าในไทยเป็นกลุ่มใหญ่กว่าจึงยังประคองตัวไปได้ ขณะนี้ภาพรวมมีฐานลูกค้าที่ยังเข้ามาออกรอบประมาณ 500 คน
ด้านธุรกิจ “สปอร์ตคลับ” ให้บริการฟิตเนส สระว่ายน้ำ สนามเทนนิส สนามแบดมินตัน สควอช และสนามฟุตซอล มีฐานสมาชิก 1,140 คน ปัจจุบันอาจจะยังมีผลกระทบไม่มาก เพราะเป็นระบบสมาชิกรายเดือนถึงรายปี ลูกค้ามีการจ่ายค่าสมาชิกล่วงหน้าไว้แล้ว และสมาชิกทั้งหมดเป็นคนไทยหรือ expat ที่อาศัยในไทย
แต่สุรพันธ์มองว่า หากลูกค้าถึงรอบสมาชิกหมดอายุ อาจมีการต่ออายุสมาชิกน้อยลง เพราะช่วง COVID-19 ระบาดหนักจนฟิตเนสต้องปิดให้บริการชั่วคราว ลูกค้าหลายรายลงทุนซื้อเครื่องออกกำลังกายไว้ที่บ้านแทนไปแล้ว ดังนั้น จึงไม่สามารถวางใจได้
จัดโปรฯ พิเศษดึงลูกค้า – ตั้งโรงเรียนแบดมินตัน
สุรพันธ์กล่าวต่อว่า กลยุทธ์ประคองตัวของโครงการในช่วงนี้คือต้องเน้น “คนในประเทศ” ให้มากที่สุด พร้อมกับมีความหวังว่ารัฐบาลจะอนุญาตเปิดประเทศภายในเดือนตุลาคม-พฤศจิกายนนี้ ซึ่งจะทำให้โครงการมีลุ้นดึงนักกอล์ฟกลับมา
ส่วนของโรงแรมอีสตินซึ่ง “เจ็บหนัก” ที่สุด ทำให้แหล่งรายได้จากคนไทยมีความสำคัญยิ่ง ปัจจุบันโรงแรมมีส่วนลดทุกแพ็กเกจ ทั้งห้องพัก ค่าจัดประชุม สัมมนา อีเวนต์ งานแต่งงาน ทำราคาพิเศษลดมากกว่า 50% หรือมีโปรโมชัน 1 แถม 1 เพื่อพยายามดึงลูกค้าเข้ามา มุ่งเป้าไปที่กลุ่มลูกค้าองค์กรที่อาจสนใจเข้ามาจัดกิจกรรม เช่น Team Building และลูกค้ากลุ่มครอบครัวที่ต้องการมาพักผ่อนวันหยุดใกล้กรุง
ด้านสปอร์ตคลับก็จะมีแพ็กเกจจูงใจให้สมาชิกต่ออายุเช่นเดียวกัน เช่น โปรโมชัน 1 แถม 1 สำหรับลูกค้าครอบครัวเดียวกัน เป็นต้น รวมถึงมีดีลกับ “โค้ชตี๋-เกษมศักดิ์ จตุจินดา” ผู้ฝึกสอนนักแบดมินตันระดับทีมชาติ จะเข้ามาเปิดอะคาเดมี่โรงเรียนสอนแบดมินตันที่ธนาซิตี้ คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในเดือนตุลาคมนี้ มองว่าน่าจะเป็นแม่เหล็กหนึ่งในการดึงดูดสมาชิกใหม่ๆ
ขณะที่ธุรกิจสนามกอล์ฟ สุรพันธ์กล่าวว่าสถานการณ์ดีขึ้นเรื่อยๆ โดยขณะนี้มีโปรฯ ลดราคาสำหรับช่วง off-peak เช่น วันจันทร์ และช่วงเวลาหลัง 10.56 น.
โดยปกติสัดส่วนรายได้ของโครงการธนาซิตี้ คันทรี คลับจะมาจากสนามกอล์ฟเป็นหลัก 50% โรงแรมอีก 30% และสปอร์ตคลับ 20% ทั้งนี้ ขอสงวนไม่ระบุตัวเลขรายได้รวม
“ปีนี้ว่ายากแล้ว ปีหน้าอาจจะยากกว่านี้อีก ถ้าหากยังไม่มีวัคซีนภายในไตรมาส 2 แล้วนักท่องเที่ยวยังเดินทางมาเป็นปกติไม่ได้” สุรพันธ์กล่าวปิดท้าย