ฝรั่งเศสรายงานพบผู้ติดเชื้อไวรัส COVID-19 รายใหม่อีก 7,379 คนในวันศุกร์ที่ 28 ส.ค. สูงสุดนับตั้งแต่ล็อกดาวน์ ในสิ่งที่กระทรวงสาธารณสุขให้คำจำกัดความว่าเป็นการเพิ่มขึ้นแบบทวีคูณ ไม่กี่วันก่อนหน้าที่เด็กๆ หลายล้านคนมีกำหนดกลับสู่ชั้นเรียนเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมีนาคม ก่อความเป็นไปได้ที่อาจต้องหวนบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์
ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันของวันศุกร์ที่ 28 ส.ค. ขาดไปเพียงเล็กน้อยก็จะเท่าสถิติสูงสุด 7,578 คน ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 31 มีนาคม ในช่วงพีคสุดของการแพร่ระบาดระลอกแรก และยอดผู้ติดเชื้อที่พุ่งขึ้นนี้ เพิ่มความเป็นไปได้ที่รัฐบาลอาจถูกบีบให้กลับมาล็อกดาวน์ประเทศอีกรอบ
“เรากำลังทำทุกอย่างเพื่อหลีกเลี่ยงล็อกดาวน์อีกรอบ และโดยเฉพาะกับการล็อกดาวน์ทั่วประเทศ” ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง บอกกับผู้สื่อข่าว อย่างไรก็ตาม เขายอมรับว่ามันอันตรายหากตัดความเป็นไปได้ใดๆ ทิ้งไปในตอนนี้
ในการทบทวนสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคระบาดใหญ่รายสัปดาห์ ทางกระทรวงสาธารณสุขฝรั่งเศสระบุว่า ประเทศกำลังเห็น “การแพร่ระบาดของไวรัสแบบทวีคูณ”
เหมือนกับประเทศอื่นๆ ในยุโรปตะวันตก ฝรั่งเศสกำลังมาตรการล็อกดาวน์อย่างฉับพลัน และเข้มงวดในเดือนมีนาคม โดยระหว่างนั้นประชาชนทั้งหมดถูกกักโรคอยู่แต่ในที่พักอาศัย ต่อมาข้อจำกัดต่างๆ ค่อยๆ ถูกยกเลิกนับตั้งแต่วันที่ 11 พฤษภาคม หลังจากจำนวนผู้ติดเชื้อลดลงอย่างมาก
เวลานี้เจ้าหน้าที่กำลังค้นหาหนทางต่างๆ เพื่อสกัดการแพร่ระบาดโดยไม่ต้องล็อกดาวน์รอบใหม่ โดยในวันศุกร์ที่ 28 ส.ค. ชาวปารีสทุกคนได้รับคำสั่งให้สวมหน้ากากป้องกันตลอดเวลาในเมืองหลวง ไม่เว้นแม้แต่ตอนอยู่กลางแจ้ง
การกลับมาเปิดการเรียนการสอนตามโรงเรียนต่างๆ อีกครั้งในวันอังคารที่ 1 ก.ย. ถูกคาดหวังว่าจะเป็นก้าวย่างครั้งสำคัญในการหวนคืนสู่วิถีชีวิตปกติ โดยเด็กๆ มากกว่า 12 ล้านคนจะกลับสู่ชั้นเรียนเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 5 เดือน
จนถึงตอนนี้ ตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่ยังไม่นำไปสู่การเพิ่มขึ้นของผู้เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล หรือผู้เสียชีวิตในอัตราเดียวกัน โดยกระทรวงสาธารณสุขฝรั่งเศสระบุว่าพบผู้เสียชีวิตจาก COVID-19 เพิ่มเติม 20 คนในวันศุกร์ที่ 28ส.ค. ส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 30,596 ราย ส่วนจำนวนผู้เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลคงที่ 4,535 คน และจำนวนผู้ถูกส่งเข้าห้องไอซียูเพิ่มขึ้น 6 คนเป็น 387 คน
เจ้าหน้าที่บอกว่าเวลานี้ไวรัสกำลังแพร่ระบาดในหมู่วัยรุ่น ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่ไม่ค่อยปรากฏอาการรุนแรง
2 สัปดาห์หลังจากฝรั่งเศยุติล็อกดาวน์เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่รายวันเคยลดลงสู่ระดับ 115 คน และค่าเฉลี่ย 7 วันต่ำสุดอยู่ที่ระดับ 272 คน อย่างไรก็ตาม หลังจากค่อยๆ เปิดร้านอาหาร, พิพิธภัณฑ์ และห้างสรรพสินค้าอย่างค่อยเป็นค่อยไป จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้นเป็นราวๆ 500 คนต่อวันในช่วงปลายเดือนมิถุนายน
จากนั้นผู้ติดเชื้อใหม่ก็เพิ่มขึ้นเป็นราวๆ 1,000 คนต่อวันในช่วงสิ้นเดือนกรกฏาคม และเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวอีกครั้งสู่ระดับราวๆ 2,000 คนในช่วงกลางเดือนสิงหาคม และเพิ่มขึ้นเหนือ 5,000 คนต่อวันในสัปดาห์นี้