วิจัยอังกฤษพบ “วัยรุ่น” เลิกไล่ตาม “อาชีพในฝัน” เมื่อวิกฤตโรคระบาดเปลี่ยนอนาคต

(photo : Photo by Andrea Piacquadio from Pexels)
งานวิจัยในอังกฤษพบว่าเด็กวัยรุ่นและวัยเริ่มทำงานถึง 2 ใน 5 หมดหวังที่จะมีอาชีพในฝัน และเปลี่ยนมาทำอาชีพ “อะไรก็ได้” แล้ว เนื่องจากวิกฤตโรคระบาด COVID-19 เปลี่ยนวิถีชีวิตและเศรษฐกิจไปหมด

Censuswide นักวิจัยการตลาดทำงานวิจัยสำหรับกองทรัสต์ของเจ้าฟ้าชายชาร์ลส (องค์กรการกุศลเพื่อช่วยเหลือหนุ่มสาวกลุ่มเปราะบางของอังกฤษ) งานวิจัยนี้สำรวจประชาชนชาวอังกฤษวัย 16-25 ปี จำนวน 2,000 คน เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา พบว่า คนรุ่นใหม่เหล่านี้ประมาณ 2 ใน 5 มองว่าตนเอง “จะไม่ได้ทำอาชีพที่ตนเองอยากทำ” และ เป้าหมายในอนาคตของพวกเขา “ดูเป็นไปไม่ได้ที่จะทำสำเร็จ” รวมถึง “จะไม่ประสบความสำเร็จในชีวิต”

สัดส่วนนี้ยิ่งเพิ่มขึ้นเป็นครึ่งหนึ่งหากกลุ่มประชากรที่สำรวจมาจากชนชั้นที่รายได้ต่ำกว่า โดยมีดัชนีชี้วัดคือกลุ่มคนที่ตอบว่าเคยได้รับอาหารกลางวันฟรีที่โรงเรียน

ก่อนหน้านี้ กลุ่มคนวัยหนุ่มสาวที่เพิ่งจบใหม่หรือกำลังจะเรียนจบคือหนึ่งในกลุ่มพนักงานที่ได้รับผลกระทบสูงจากโรคระบาด เพราะเกิดปัญหาบริษัทรัดเข็มขัด งดจ้างงานเพิ่ม รวมถึงปัญหาการเรียนที่ต้องหยุดชะงักจากการล็อกดาวน์ ซึ่งเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นทั่วโลก องค์กรแรงงานสากลของสหประชาชาติยังมีรายงานเมื่อเดือนสิงหาคมว่า 42% ของคนวัยหนุ่มสาวทั่วโลก แม้จะยังมีงานทำในช่วงโรคระบาดแต่ก็มีรายได้ที่ลดลง

ผลสำรวจล่าสุดดังกล่าว จึงสะท้อนให้เห็นภาพที่ค่อนข้างสิ้นหวังของคนหนุ่มสาว โดยเกือบ 3 ใน 5 ของผู้ที่ถูกสำรวจตอบว่าพวกเขา “กลัวว่าจะไม่มีงานทำ” ส่วนถ้าเจาะไปที่กลุ่มที่เรียนจบแล้วและยังไม่มีงานทำ เกือบครึ่งหนึ่งของคนกลุ่มนี้กังวลว่าจะตกงานไปอีกยาวนาน

36% ของคนหนุ่มสาวอังกฤษยังตอบว่าตนเอง “สูญเสียความหวัง” กับอนาคตโดยรวมไปแล้ว ขณะที่ 39% หมดแรงบันดาลใจกับการใช้ชีวิตในปีต่อไป

โจนาธาน ทาวน์เซนด์ ซีอีโอประจำประเทศอังกฤษของกองทรัสต์เจ้าฟ้าชายชาร์ลส กล่าวว่า บทสรุปจากผลสำรวจนี้ทำให้เห็นว่าโรคระบาดไม่ใช่แค่ดิสรัปต์การศึกษา แต่ยังทำลายโอกาสการงานอาชีพของคนรุ่นใหม่ด้วย

“โรคระบาดทำลายความมั่นใจต่ออนาคตของพวกเขา ถึงขนาดที่บางคนรู้สึกว่าพวกเขาจะไม่มีทางประสบความสำเร็จในชีวิตได้” ทาวน์เซนด์กล่าว และย้ำว่าคนที่มาจากกลุ่มด้อยโอกาสจะยิ่งได้รับผลกระทบหนักกว่า

“เราต้องสนับสนุนการเพิ่มพูนทักษะ ฝึกฝนใหม่ และทำให้พวกเขาเข้าถึงโอกาสด้านการงาน มิฉะนั้นเราจะเสียความมุ่งมั่นของคนรุ่นใหม่ไปและเกิดกลุ่มคนตกงานระยะยาวขึ้น ซึ่งเป็นผลเสียทั้งต่ออนาคตของพวกเขาเองและการฟื้นฟูเศรษฐกิจประเทศ”

Source