ยูบีเอส (UBS) และพีดับบลิวซี (PwC) รายงานถึงทรัพย์สินของบรรดาอภิมหาเศรษฐีโลกแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ท่ามกลางโรคระบาดใหญ่ COVID-19 โดยเกิดจากการดีดตัวขึ้นของราคาหุ้น และความรุ่งเรืองของกลุ่มเทคโนโลยีและประกันสุขภาพ ช่วยให้ทรัพย์สินรวมของบรรดาอภิมหาเศรษฐีของโลกพุ่งทะลุ 10 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ
รายงานของ USB และ PwC ซึ่งครอบคลุมอภิมหาเศรษฐีกว่า 2,000 คน หรือคิดเป็น 98% ของประชากรอภิมหาเศรษฐีทั้งหมด พบว่าบรรดาอภิมหาเศรษฐีมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นมากกว่า 1 ใน 4 ระหว่างช่วงเวลาหลายเดือนของการแพร่ระบาดของโรคระบาดใหญ่ แตะระดับ 10.2 ล้านล้านดอลลาร์ในเดือนกรกฏาคม ทำลายสถิติเดิมที่พุ่งแตะ 8.9 ล้านล้านดอลลาร์ ในช่วงสิ้นปี 2019
ผลการศึกษาของ USB และ PwC พบว่าระหว่างวันที่ 7 เมษายนถึง 31 กรกฎาคมในปีนี้ บรรดาอภิมหาเศรษฐีในทั่วทุกภาคอุตสาหกรรม พบเห็นทรัพย์สินของพวกเขาเพิ่มขึ้นในอัตราเลข 2 หลัก โดยเฉพาะเหล่าอภิมหาเศรษฐีในภาคเทคโนโลยี ประกันสุขภาพและภาคอุตสากรรม ที่มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นราวๆ 36% ถึง 44%
โรคระบาดใหญ่กลายเป็นตัวเร่งแนวโน้มการเติบโตของบรรดาผู้ประกอบการด้านเทคโนโลยีและประกันสุขภาพ รวมถึงธุรกิจนวัตกรรมอื่นๆ ส่งผลให้อภิมหาเศรษฐีในด้านเหล่านี้มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นในอัตราที่สูงกว่าบรรดามหาเศรษฐีในภาคอื่นๆ
นับตั้งแต่ปี 2018 จนถึงเดือนกรกฏาคม 2020 บรรดาอภิมหาเศรษฐีภาคเทคโนโลยี พบเห็นทรัพย์สินของพวกเขาเพิ่มขึ้น 42.5% เป็น 1.8 ล้านล้าน รายงานระบุ ในขณะที่อภิมหาเศรษฐีในภาคประกันสุขภาพก็โกยเงินมหาศาลเช่นกัน พบเห็นทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 50.3% ในช่วงเวลาดังกล่าว เป็น 658,600 ล้านดอลลาร์
ในจำนวนอภิมหาเศรษฐีโลกกว่า 2,000 คน มีเพียงแค่ราว 200 คนที่ประกาศต่อสาธารณะให้สัญญาว่าจะบริจาคเงินรวม 72,000 ล้านดอลลาร์ สำหรับช่วยจัดการกับโรคระบาดใหญ่ COVID-19 อย่างไรก็ตาม ผลการศึกษาเน้นว่ายอดบริจาคที่แท้จริงของบรรดามหาเศรษฐีเพื่อต่อสู้กับวิกฤตด้านสาธารณสุข เช่นเดียวกับต่อสู้กับความยุ่งเหยิงทางสังคมและเศรษฐกิจอันเนื่องมาจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่น่าจะสูงกว่านี้