ธุรกิจพิชิตล้าน “ชาร์กแท็งก์ ไทยแลนด์ ซีซั่น 2” ปิดดีลหนุนธุรกิจเม็ดเงิน 210 ล้านบาท สร้างปรากฎการณ์ต่อยอดผู้ประกอบการไทย


ปิดฉากตอนสุดท้ายของซีซั่นไปแล้วเรียบร้อยสำหรับรายการ “ชาร์กแท็งก์ ไทยแลนด์ ซีซั่น 2” รายการเรียลลิตี้ธุรกิจที่เฟ้นหาสุดยอดไอเดียธุรกิจ เพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการ SME ไทย นอกจากจะได้รับเงินทุนแล้ว ยังได้รับความรู้จากผู้มีประสบการณ์อย่างเต็มที่ เรียกว่าเป็นการสร้างปรากฎการณ์ให้กับรายการธุรกิจในประเทศไทยได้อย่างดีต้องบอกว่ารายการ “ชาร์กแท็งก์ ไทยแลนด์ ซีซั่น 2” ได้รับกระแสตอบรับอย่างดีจากกลุ่มผู้ชมตลอดทั้ง 17 ตอน ผ่านสถานีโทรทัศน์ช่อง 7HD และช่องทางออนไลน์หลักของรายการ ขึ้นแท่นรายการเรียลลิตี้ทางธุรกิจที่โดนใจผู้ชมอย่างล้นหลาม และสร้างความแปลกใหม่จากรายการธุรกิจอื่นๆ ได้อย่างชัดเจน

ซึ่งตลอดทั้ง 2 ซีซั่นที่ผ่านมาได้พิสูจน์แล้วว่ารายการชาร์กแท็งก์ ไทยแลนด์ เป็นเรียลลิตี้ทางธุรกิจหนึ่งเดียวในประเทศไทย ที่สานฝันผู้ประกอบการไปสู่จุดหมายได้อย่างแท้จริง และยังเป็นที่พึ่งทางธุรกิจ ที่ได้มากกว่าความสนุก ยังเต็มไปด้วยเทคนิค รวมไปถึงข้อมูลที่ผู้ชมสามารถไปปรับใช้ในกิจการของตัวเองได้ ถือเป็นตำนานทางธุรกิจบทใหม่ที่สามารถจับต้องได้ ตลอดการแข่งขันมีการนำเสนอธุรกิจ SME ในหลากหลายอาชีพ ภายใต้การสนับสนุนจากบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง ธนาคารออมสิน ที่ร่วมเสริมทัพด้านเงินทุน และมอบโอกาสให้เหล่าผู้ประกอบการที่ผ่านการคัดเลือก

โดยความพิเศษของซีซั่น 2ได้รวบรวมเหล่า “ชาร์ก”กลุ่มนักธุรกิจชื่อดัง ผู้คร่ำหวอดในวงการนักลงทุน มาร่วมคัดเลือกไอเดีย และต่อรองการลงทุน ไม่ว่าจะเป็น เต้-ภูริต ภิรมย์ภักดี ผู้บริหารหนุ่มไฟแรง บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด และ ประธานกรรมการบริหาร สิงห์ เวนเจอร์ส,แอน-จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ เจ้าแม่คอนเทนต์พันล้านแห่งอาณาจักร JKN ที่สร้างปรากฏการณ์ในฐานะ ชาร์กข้ามเพศคนแรกของโลก,กฤษน์ ศรีชวาลา เจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของประเทศ ผู้ก่อตั้งอาณาจักร Fico Group, เบอร์ดี้-บดินทร์ธร จึงรุ่งเรืองกิจ นักธุรกิจรุ่นใหม่ ซีอีโอกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในนามบริษัท เรียลแอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด, และหมู-ณัฐวุฒิ พึงเจริญพงศ์ เจ้าของแอปพลิเคชั่น Ookbee นักธุรกิจที่โด่งดังในด้าน Tech Start-up ซึ่งรายการทวีความเข้มข้นขึ้นอย่างต่อเนื่อง สร้างดราม่าฉะเดือดตลอดการแข่งขัน จาก 5 ชาร์กนักลงทุน ที่มาสร้างสีสัน และให้คำแนะนำได้อย่างดี

โดยที่รายการ ชาร์กแท็งก์ ไทยแลนด์ ซีซั่น 1และ ซีซั่น 2 ได้หนุนเงินทุนสนับสนุนผู้ประกอบการไปแล้วมากกว่า 400 ล้านบาทเรียกว่าเป็นรายการแรก และรายการเดียวในประเทศไทยที่ให้เงินทุนมากขนาดนี้ ทั้งนี้ได้มุ่งหวังให้เกิดเม็ดเงินสะพัดในตลาด ธุรกิจ SME อย่างมากที่สุด โดยเฉพาะกลุ่มสตาร์ทอัพรุ่นใหม่ เพื่อหนุนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตขึ้น ซึ่งมีผู้เข้าแข่งขันได้รับโอกาสทางธุรกิจทั้งสิ้น 24 ราย อาทิเช่น มะม่วงกรอบ อาเสี่ยใหญ่, add on Taxi,Local Alike,ไมโครเวนดิ้งเทค จำกัด, หลอดน้ำที่ย่อยสลายได้เอง, ชุดทดลองการเรียนรู้ช่างไฟฟ้าระบบอัตโนมัติ, อิจิบังราเมน เป็นต้น

นับเป็นปรากฎการณ์รายการเรียลลิตี้เชิงธุรกิจของประเทศไทย ที่ส่งเสริมธุรกิจ SME ให้ก้าวต่อไปอย่างมั่นคง ทั้งนี้ธุรกิจที่ได้รับดีลตามข้อเสนอของชาร์กแต่ละท่านในรายการ จะได้รับการดูแลตามสัดส่วนตัวเลขเงินลงทุนจากรายการ และผู้สนับสนุน เพื่อให้แผนธุรกิจที่ได้นำเสนอเป็นไปตามเป้าหมายที่ทุกฝ่ายได้วางไว้ ยกตัวอย่างเช่น ธุรกิจ “อิจิบัง ราเมง”ที่ได้รับเงินลงทุนจากชาร์ก 5 ล้านบาท แลกส่วนแบ่ง 30%หรือธุรกิจ “ดอกเตอร์ติว”ที่ได้รับเงินลงทุนจากชาร์ก 5 แสนบาท แลกส่วนแบ่ง 50%เป็นต้น

ทั้งนี้ ได้พูดคุยกับเหล่าบรรดาชาร์กนักธุรกิจ ได้เปิดเผยถึงความรู้สึกต่อการเป็นกรรมการในครั้งนี้ “แอน-จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์” เจ้าแม่ JKN ได้บอกว่า “ให้มองในฐานะคนดู รายการนี้ทำให้เกิดความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ คนดูที่บ้านก็คิดไอเดียธุรกิจได้ พอดูรายการ ได้ฟังคอมเม้นต์ก็อยากรู้ว่าตัวเองทำได้มั้ย แล้วชาร์กคอมเม้นต์ว่าอะไรบ้าง ยิ่งเห็นเงินสนับสนุนยิ่งมีความหวังว่าอนาคตจะร่วมทุนกับใครก็ได้ถ้ามีไอเดีย ส่งเสริมให้คนมีแรงบันดาลใจในการทำมาหากิน มีองค์ความรู้ในการประกอบกิจการให้พลาดน้อยที่สุด ที่สำคัญเงินสนับสนุน 300-400 ล้านบาท ไม่เคยเห็นในรายการไหนในประเทศไทยอย่างแน่นอน สะท้อนให้เห็นว่ายังมีรายการมีสาระ น่าดู ตื่นเต้นในไทยด้วยเช่นกัน”

สำหรับใน EP สุดท้าย ได้มีแขกรับเชิญพิเศษ ที่เป็นผู้คร่ำหวอดในวงการลงทุนมาร่วมสร้างสีสันในรายการ “ประพล มิลินทจินดา” ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จำกัด (มหาชน) ได้ให้ความคิดเห็นว่า“อยากให้ทุกคนติดตามรายการนี้เป็นอีกหนึ่งรายการที่สร้างความเชื่อมั่นได้อย่างดีเรียกได้ว่ารายการชาร์กแทงค์อยู่ในประเทศไหน ประเทศนั้นจะมีมาตรฐานด้านเศรษฐกิจ เป็นสัญญาณที่ดีกับธุรกิจ ตอนนี้ทุกคนเป็นนักธุรกิจได้หมด เพียงแต่ปัญหาส่วนใหญ่ที่พบเจอคือขาดประสบการณ์ การบริหารจัดการ ต้นทุน และการตลาด ส่วนใหญ่มีแพชชั่น เงิน แต่ขาดความรู้ ประสบการณ์ ต้นทุนธุรกิจเราต้องมาเติมให้เขาสมบูรณ์ขึ้น”

ประพลยังเสริมอีกว่า ความท้าทายผู้ประกอบการยุคนี้คือต้องมีนวัตกรรม และมองหาสิ่งใหม่ๆ ช่องทางออนไลน์ หรือธุรกิจที่ตอบรับกับยุค New Normal ไม่ว่าจะเป็นอาหาร หรือธุรกิจเพื่อสุขภาพ ล้วนเป็นธุรกิจที่น่าจับตามอง แม้ซีซั่นที่ 2 จะจบแล้วแล้วอย่างน่าประทับใจ แต่ตำนานบทใหม่กำลังจะเริ่มต้น มาเฟ้นหาสุดยอดไอเดียทางธุรกิจ ที่จะเข้มข้นมากขึ้นคูณสาม เตรียมตัวให้พร้อม ธุรกิจที่คุณดำเนินอยู่อาจจะได้รับการต่อยอดไปสู่ความสำเร็จที่ยั่งยืน

เปิดรับสมัครแล้ววันนี้ รายการชาร์กแท็งก์ ไทยแลนด์ ซีซั่น3 ผู้สนใจสามารถสมัครได้ที่  http://www.sharktankthailand.com หรือรับชมรายการย้อนหลัง และสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ FB : Shark Tank Thailand และ YouTube: MEDIA Tank, LINE OA @sharktankthailand