ชาวอเมริกัน ตื่นตระหนกช่วงเลือกตั้งสหรัฐฯ 2020 แห่ซื้อปืนไว้ป้องกันตัวเอง หวั่นเกิดเหตุรุนเเรงเเละความวุ่นวาย หลังประกาศผลประธานาธิบดี
ยอดซื้อขาย “อาวุธปืน” ทั่วสหรัฐฯ กำลังพุ่งสูงขึ้นในช่วงเลือกตั้ง บางร้านขายหมดเกลี้ยงภายในไม่กี่ชั่วโมง…
“ปกติในร้านจะมีปืนวางอยู่เต็มเลย แต่ตอนนี้ความต้องการพุ่งสูงมาก บางครั้งสินค้าเข้ามาตอนเช้า พอถึงช่วงบ่าย ราว 3 ใน 4 ของสินค้าทั้งหมดก็ขายออกไปแล้ว” เจ้าของร้านปืนเเห่งหนึ่งกล่าว
ประชาชนในสหรัฐฯ บางส่วนกำลังกังวลว่า หลังการเลือกตั้งจะเกิดเหตุความรุนแรงเเละการประท้วงในย่านที่พักอาศัยของตัวเอง โดยเฉพาะในพื้นที่รัฐ Swing State เขตที่มีคะเเนนเสียงสามารถชี้วัดตำแหน่งผู้นำคนใหม่ได้
อาวุธปืนในสหรัฐฯ มียอดขายสูงเป็นประวัติการณ์ นับตั้งเเต่มีการแพร่ระบาด COVID-19 การลุกฮือประท้วงต่อต้านการเหยียดผิว เเละสถานการณ์การเลือกตั้งประธานาธิบดีที่สูสีกันมาก จนหลายคนเกรงว่าอาจเกิดเหตุรุนแรงขึ้นได้
สำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐฯ (FBI) เผยว่า นับตั้งแต่เดือนมกราคมถึงกรกฎาคมที่ผ่านมา มียอดซื้อขายปืนในประเทศเพิ่มขึ้นถึง 71% โดยเฉพาะในช่วงกลางปีที่มีการระบาดหนัก หลายรัฐส่งคำร้องให้ FBI ตรวจสอบประวัติผู้ซื้อปืนมากถึง 3.9 ล้านครั้งภายในเดือนเดียว
ปัจจัยในการแห่ซื้อปืนของชาวอเมริกันในช่วงนี้ มีหลายเหตุผลด้วยกัน เช่น บางคนมองว่าหาก “โจ ไบเดน” ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครตชนะการเลือกตั้ง นั้นหมายความว่า การซื้อปืนอาจทำได้ยากขึ้น
เนื่องไบเดน ประกาศจุดยืนในการคุมเข้มการจำหน่ายและครอบครองปืน เพราะมองว่าเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะป้องกันเหตุการณ์กราดยิงที่เพิ่มสูงขึ้น รวมถึงความรุนแรงจากอาวุธปืนต่างๆ
ขณะที่พรรครีพับลิกัน และ “โดนัลด์ ทรัมป์” ต้องการเพิ่มเสรีภาพในการครอบครองปืน เพราะมองว่าสิทธิการป้องกันตนเองขั้นพื้นฐาน เป็นสิทธิอันชอบธรรมตามหลักรัฐธรรมนูญ
ในอีกมุมหนึ่ง ชาวเอเชียในสหรัฐฯ หลายคนตัดสินใจต่อแถวรอซื้อปืน ด้วยเหตุผลว่าพวกเขาต้องการ ”ใช้ป้องกันตัว” จากความเกลียดชังทางเชื้อชาติที่มีมากขึ้น นับตั้งเเต่วิกฤต COVID-19
ด้วยเหตุผลต่างๆ เหล่านี้ ทำให้ชาวสหรัฐฯ จำนวนมาก “เร่งซื้อปืน” ไว้ครอบครอง ก่อนผลเลือกตั้งจะออกมาในวันที่ 3 พฤศจิกายน 2020 นี้ (หรือเช้าวันที่ 4 พฤศจิกายน ตามเวลาในไทย )
ที่มา : Sky News , Fox News , LA times