เปิดมุมมอง Sex Work ของ Fabian Thylmann ผู้ซื้อ Pornhub ไปบริหารจนเปลี่ยนโลกหนังโป๊

Fabian Thylmann เป็นหนึ่งในบุคคลที่มีรายชื่อเกี่ยวข้องโดยตรงกับการผงาดของ Pornhub ตามประวัติในวิกิพีเดียระบุว่า Thylmann ซื้อเว็บไซต์ Pornhub ไปในปี 2010 แล้วก็ถูกบีบให้ขายไปในปี 2013 

Thylmann ซื้อ Pornhub ไปในนามบริษัท Mindgeek ที่เขาก่อตั้งขึ้น สิ่งที่ทำคือการสร้างซอฟต์แวร์ติดตามผู้ชมบนออนไลน์ซึ่งกลายเป็นรากฐานของอุตสาหกรรมคอนเทนต์โป๊เปลือยในปัจจุบัน นอกจาก Pornhub หนุ่ม Thylmann ในวัย 32 ปียังได้รับการสนับสนุนเงินกู้จากบริษัทใหญ่ในวอลสตรีทจำนวนมาก เพื่อไล่ซื้อเว็บไซต์มากมาย เช่น Mansef, Interhub, MyDirtyHobby, Webcams.com และ xTube ก่อนที่ Thylmann จะถูกส่งตัวในคดีผู้ร้ายข้ามแดนไปยังเยอรมนีด้วยข้อหาหลีกเลี่ยงภาษี นำไปสู่การขายบริษัทในที่สุด

ในขณะที่คนนอกมอง Thylmann ว่าร่ำรวยได้จากธุรกิจเว็บไซต์โป๊เปลือย แต่ตัว Thylmann ไม่ได้มองว่าตัวเองโฟกัสที่รายได้เท่านั้น เห็นได้ชัดจากการพูดถึงมุมมองในการทำงานจากธุรกิจหนังโป้ให้นักศึกษาออกซ์ฟอร์ดฟังเมื่อปี 2015 ซึ่งล้วนเป็นแง่คิดน่าสนใจจากคนในที่ได้สัมผัสวงการคอนเทนต์โป๊เปลือยตัวจริง

 

ธุรกิจนี้ไม่มีวันตาย

Thylmann ขึ้นโต้วาทีเรื่อง Sex Work Debate ในมิถุนายนปี 2015 โดยย้ำว่าแม้หลายคนจะมองว่าธุรกิจทางเพศเป็นอาชีพที่ไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วย แต่ความจริงคือธุรกิจทางเพศเป็นอุตสาหกรรมที่เก่าแก่ที่สุด และจะยังคงเป็นอุตสาหกรรมที่ยั่งยืนที่สุดต่อไป ซึ่งไม่ว่าฝ่ายอนุรักษ์นิยมจะเกลียดมากแค่ไหน แต่อุตสาหกรรมนี้ก็จะกลับมาอยู่ที่เดิมและไม่จากไปหรือหายไปไม่เวลาอันรวดเร็ว

ดังนั้น Thylmann จึงมองว่าปัญหาที่ต้องแก้ไขในอุตสาหกรรม คือการสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีให้กับทุกฝ่าย ต้องลดทอนความเป็นอาชญากรที่ถูกตราหน้ากันมาหลายสิบปี และที่สำคัญกว่านั้นคือการทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย

Thylmann ยอมรับว่าอุตสาหกรรมหนังโป๊เปลือยมีความเลวร้ายแฝงอยู่ จึงเห็นได้ชัดว่าโลกต้องหาทางหยุดการกระทำที่เป็นอันตรายต่อคนในอุตสาหกรรม ซึ่งไม่เพียงการปกป้องผู้หญิง แต่การปกป้องผู้ชายก็สำคัญมากเช่นกัน เพราะสเปกตรัมของอุตสาหกรรมโป๊เปลือยนั้นใหญ่มาก และไม่ใช่แค่ฝ่ายหญิงเท่านั้นที่ได้รับความโหดร้ายเหมือนที่ใครเข้าใจ

“คนดีๆ” ไม่ควรทำงานด้านเซ็กส์?

สำหรับคำถามว่าทำไม “คนดีๆ” ไม่ควรยอมทำงานด้านเซ็กส์หรือ Sex Work เป็นอาชีพ Thylmann มองว่าเพราะทุกคนมองเห็นแต่ความไม่ดีของสื่อลามก และไม่มีวิธีแก้ปัญหาที่จะลบล้างสิ่งที่เกิดขึ้นจริง ดังนั้นในความคิดของ Thylmann มองว่าเป็นสิ่งสำคัญที่สังคมควรจะให้อำนาจผู้หญิงและผู้ชายในอุตสาหกรรมนี้ได้มีอิสระและถูกกฎหมายอย่างสมบูรณ์ และกฎหมายที่มีอยู่ก็ควรมีจุดประสงค์เพื่อคุ้มครองไม่ให้ “แมงดา” หรือนายหน้าค้าประเวณีไม่สามารถเจริญเติบโตได้บนความทุกข์ของคนอื่น

ในฐานะคนในวงการ Thylmann ย้ำว่าบุคลากรในอุตสาหกรรมนี้ต้องการทำงานในแบบที่ได้ความรู้สึกปลอดภัย และมีโอกาสที่จะเป็นแบบนั้นหากเลือกพื้นที่ทำงานที่เหมาะสม

โดยบนเวที Thylmann ยอมรับว่าเว็บไซต์หนังโป๊ก็ต้องมีการทำคีย์เวิร์ดที่เข้มข้นเพื่อปรับปรุงตำแหน่งที่แสดงในเครื่องมือค้นหา ซึ่งจะทำให้เว็บไซต์ถูกเปิดชมมากขึ้น 

วิธีที่ Thylmann ยึดเพื่อดำเนินธุรกิจหนังโป๊ในเวลานั้นคือการปกป้องทุกคนให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ดูเหมือนว่าแนวคิดนี้ก็ยังอยู่กับ Pornhub เพราะ Pornhub วันนี้พยายามให้ความรู้กับผู้ชมในแง่สุขอนามัยทางเพศอย่างจับต้องได้ ตัวอย่างชัดเจนคือ Thylmann ย้ำบนเวทีว่าตัวเขามองเรื่องเพศสัมพันธ์ทางทวารหนักว่าเป็นเรื่องที่เลวร้าย และในวันที่เกย์หลายคนบนโลกยังไม่ทราบว่าเพศสัมพันธ์ทางทวารหนักมีผลเสียมหาศาล ดังนั้นจึงไม่ควรปฏิบัติหรือไม่ควรปรากฏบนเว็บไซต์ทุกแห่งบนโลกนี้

อีกสิ่งสำคัญที่ Thylmann ย้ำคือการที่เขาต้องออกจากอุตสาหกรรมคอนเทนต์โป๊เปลือยเมื่อปี 2013 นั้นไม่ได้เกิดขึ้นเพราะความไม่ชอบหรือไม่อยากทำ แต่เป็นเพราะการมองเห็นช่องทางธุรกิจอื่นที่พอทำได้ โดย Thylmann ต้องการย้ำว่าตัวเขาไม่ได้จากอุตสาหกรรมนี้ไปเพราะการเปลี่ยนใจไม่อยากยุ่งกับอุตสาหกรรมหนังโป๊แล้ว

Thylmann ย้ำว่าเมื่อได้รับเชิญให้เข้าร่วมโต้วาทีกับ Oxford Union เขาก็ตัดสินใจว่าจะพูดเรื่องการออกจากวงการอีกครั้งเพราะมองว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องพูดถึง นอกจากนี้ บรรยากาศการโต้วาทีครั้งนี้ยังทำให้โลกได้เห็นว่า Thylmann มีนิสัยกล้าได้กล้าเสีย เพราะเขาไม่ได้เขียนสุนทรพจน์หรือร่างหัวข้ออภิปรายไว้ล่วงหน้า เนื่องจากมองว่าไม่มีเหตุผลที่จะพูดถึงสิ่งที่ไม่เกี่ยวข้องกับผู้ที่พูดโต้วาทีไว้ก่อน

ชีวิตวันนี้ของ Fabian Thylmann ยังอยู่ในวงการสีเทา เด็กหนุ่มที่เคยเขียนโปรแกรมระบบเก็บสถิติให้เว็บไซต์หลายแห่งตั้งแต่อายุ 17 ปี กลายเป็นนักลงทุนให้สตาร์ทอัปจำนวนมาก และปักหลักในวงการกัญชาอย่างเหนียวแน่น

นอกจากจะเป็นเจ้าของคลับและร้านอาหารในหลายเมืองหลังจากใช้เวลาเดินทางอยู่นานก่อนที่จะตัดสินใจลงทุนในสิ่งที่ชอบ สิ่งที่ Thylmann ชื่นชอบยังมีสมุนไพรอารมณ์ดีอย่างกัญชา โดย Thylmann ให้เหตุผลว่าเนื่องจากรูปแบบธุรกิจขายกัญชานั้นคล้ายกับสื่อลามกซึ่งเกิดขึ้นในพื้นที่สีเทาที่มีทั้งถูกและผิดกฎหมาย และหลายคนไม่เต็มใจที่จะลงทุนอย่างเปิดเผยในองค์กรทั้ง 2 รูปแบบ ส่วนนี้ Thylmann ยอมรับว่ากัญชาเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ในแคนาดา และช่วงเวลาที่ตัวเขาใช้ชีวิตอยู่ในแคนาดาทำให้ Thylmann มีเครือข่ายคอนเนคชั่นด้านกัญชาที่กว้างขวางตามไปด้วย

บทสรุปของมุมมองจาก Thylmann คือทั้งอุตสาหกรรมหนังโป๊และกัญชาล้วนต้องการแรงผลักดันด้านกฎหมายอย่างสมบูรณ์ และเป็นสิ่งสำคัญที่จะแก้ไขทุกปัญหา ในวันที่ทั้ง 2 อุตสาหกรรมจะยังอยู่คู่กับโลกไปอีกนาน.


ที่มา :