บริษัทผู้ผลิตยาหลายราย เล็งใช้ “อินโดนีเซีย” เป็นฐานผลิตเเละจัดจำหน่ายวัคซีน COVID-19 ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
รายงานข่าวจาก SCMP ระบุว่า Penny Lukito หัวหน้าสำนักงานควบคุมยาและอาหารแห่งชาติอินโดนีเซีย (BPOM) ให้สัมภาษณ์สื่อว่า ตอนนี้รัฐบาลได้รับการติดต่อจาก Pfizer บริษัทผู้ผลิตวัคซีนรายใหญ่ของสหรัฐฯ และบริษัท AstraZeneca ของอังกฤษ รวมไปถึงผู้พัฒนาวัคซีน Sputnik V ของรัสเซีย เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการทดสอบวัคซีน COVID-19 ในอินโดนีเซีย
บริษัทเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะหา “พันธมิตรธุรกิจยา” ในอินโดนีเซีย เพื่อสนับสนุนการทดลองหรือผลิตวัคซีนในประเทศ
“ฉันคิดว่าการเเพร่ระบาดครั้งนี้ เปิดโอกาสให้ทุกส่วนของอุตสาหกรรมยาของอินโดนีเซียเติบโต…ไม่เพียงแต่บริษัทยาของรัฐเท่านั้น” Lukito กล่าวเเละเสริมว่า ปัจจุบันอุตสาหกรรมยาในประเทศ ที่มีมูลค่าราว 9 พันล้านเหรียญสหรัฐ มีความสามารถและประสบการณ์ในการผลิตวัคซีนสำหรับมนุษย์
ก่อนหน้านี้ Sinovac Biotech จากประเทศจีน ได้อนุญาตให้บริษัท Bio Farma ของอินโดนีเซียผลิตวัคซีนของ Sinovac ซึ่งคาดว่าจะมีการผลิตวัคซีนคู่ขนานจำนวน 260 ล้านโดส ซึ่งครอบคลุมประชากรเกือบครึ่งหนึ่งของประชากรอินโดนีเซียทั้งหมด 270 ล้านคน ทำให้อินโดนีเซียจะกลายเป็นศูนย์กลางในการผลิตวัคซีนของ Sinovac
นอกจากนี้ อินโดนีเซียยังได้ทำข้อตกลงในการจัดหาวัคซีนจาก CanSino Biologics และ Sinopharm ผู้ผลิตยารายใหญ่ของจีนอีกเจ้าด้วย
การร่วมมือกับ Pfizer เเละผู้ผลิตวัคซีนระดับแนวหน้ารายอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านการทดสอบหรือการจัดหาวัคซีน จะช่วยใหอินโดนีเซียรับมือกับโรคระบาดที่รุนเเรง หลังมีผู้ติดเชื้อในประเทศไปเเล้วกว่า 483,000 คน และคร่าชีวิตผู้คนไปกว่า 15,000 คน ซึ่งเป็นจำนวนมากที่สุดในกลุ่มประเทศอาเซียน
นอกจากนี้ ผลกระทบจาก COVID-19 ยังทำให้เศรษฐกิจของอินโดนีเซีย เกิดภาวะถดถอยครั้งแรกในรอบ 20 ปี หลังจาก GDP หดตัวร้อยละ 3.49 ในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้