ถ้าหากฝั่งเอเชียอย่างเรามี ‘วันคนโสด’ หรือ ‘11.11’ ทางฝั่งอเมริกาก็มี ‘Black Friday’ หรือวันศุกร์สัปดาห์ที่ 4 ของเดือนพฤศจิกายนทุก ๆ ปี ที่จะมีการลดราคาสินค้ากระจุยกระจาย นับเป็นเทศกาลลดราคาที่ชาวอเมริกันตั้งหน้าตั้งตารอคอย อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่วันที่ 3 พฤศจิกายนสหรัฐอเมริกามีการบันทึกการติดเชื้อ COVID-19 รายใหม่มากกว่า 100,000 รายต่อวัน ขณะที่ผู้เสียชีวิตก็พุ่งสูงขึ้นเช่นกัน ส่งผลให้ผู้บริโภคยอมรับว่ามีความกังวลที่จะช้อปปิ้งในวัน Black Friday
วัน ‘Black Friday’ ใกล้จะมาถึงแล้ว แต่ความวิตกกังวลของผู้บริโภคเกี่ยวกับการจับจ่ายในร้านค้าและห้างสรรพสินค้านั้นทวีความรุนแรงมากขึ้นเนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อ COVID-19 ของอเมริกากำลังทวีความรุนแรงขึ้นทั่วประเทศ ทำให้มีผู้คนจำนวนที่ไปกางเต็นท์รอช้อปปิ้งในวันนี้ลดลง
จากการสำรวจของ Deloitte เกี่ยวกับการจับจ่ายซื้อของในร้านค้าช่วงวันหยุดพบว่าผู้บริโภค 57% ระบุว่าพวกเขากังวลเกี่ยวกับการซื้อของในร้านค้าเนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดือยกันยายนที่มี 51% ขณะที่ผู้บริโภคจำนวน 61% วางแผนที่จะซื้อสินค้าออนไลน์ในวัน Black Friday มากกว่าร้านค้าที่ 54% นอกจากนี้ 61% ระบุว่าพวกเขา ‘ไม่แน่ใจ’ หรือ ‘ไม่มีแผน’ ที่จะซื้อของกับครอบครัวและเพื่อน ๆ ในสัปดาห์วันขอบคุณพระเจ้า ขณะที่ปีก่อนอยู่ที่ 48%
“ฉันเดาว่าตอนนี้เปอร์เซ็นต์น่าจะสูงกว่านี้ เนื่องจากการระบาดของโรคให้ผู้คนหันไปช้อปออนไลน์ นี่คือพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป” Rod Sides รองประธานและผู้นำด้านการค้าปลีกการค้าส่งและการจัดจำหน่ายของสหรัฐฯ กล่าว
Jeff Gennette ซีอีโอของ Macy ยอมรับความจริงดังกล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยบอกกับนักวิเคราะห์ในระหว่างการประชุมทางโทรศัพท์ว่า “เราคาดว่าปริมาณการใช้งานจะลดลงในช่วง Black Friday” ส่วนร้านค้าปลีกอื่น ๆ รวมถึง Macy’s, Walmart, Target และ Dick’s Sporting Goods ได้เสนอโปรโมชัน Black Friday ล่วงหน้า ก่อนวันศุกร์หลังวันขอบคุณพระเจ้าโดยหวังว่าจะดึงความต้องการของนักช้อปไปข้างหน้าและหลีกเลี่ยงร้านค้าที่แออัด นอกจากนี้ยังเตรียมความพร้อมของคลังสินค้าเพื่อรองรับการซื้อขายผ่านออนไลน์