สายการบินแควนตัสแห่งออสเตรเลียยืนยันว่า ในอนาคตข้างหน้าบรรดานักเดินทางระหว่างประเทศ จะต้องฉีดวัคซีน COVID-19 ก่อนขึ้นบิน ระบุความเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็น “สิ่งจำเป็น”
“เรากำลังเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดและเงื่อนไขต่างๆ ของเรา สำหรับนักเดินทางระหว่างประเทศ ซึ่งเราจะขอให้ผู้โดยสารฉีดวัคซีน ก่อนที่พวกเขาจะขึ้นเครื่อง” อลัน จอยซ์ ซีอีโอของสายการบินแควนตัสให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่น
“คุณต้องทำเช่นนั้นในเที่ยวบินภายในประเทศหรือไม่ เราจะรอดูว่า COVID-19 ส่งผลกระทบอย่างไรในตลาดเส้นทางการบินภายในประเทศ แต่แน่นอนว่าสำหรับนักเดินทางระหว่างประเทศ และผู้โดยสารที่กำลังเดินทางออกนอกประเทศ เราคิดว่ามันเป็นสิ่งจำเป็น”
ออสเตรเลียเคยปิดชายแดนระหว่างประเทศในเดือนมีนาคม ระหว่างการแพร่ระบาดของโรคระบาดใหญ่ระลอกแรก และปัจจุบันบังคับให้นักเดินทางที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ ต้องกักโรคเป็นเวลา 2 สัปดาห์
ขณะเดียวกัน รัฐวิกตอเรีย ศูนย์กลางการแพร่ระบาดของออสเตรเลีย เปิดเผยในวันอังคารที่ 24 พ.ย. ว่า ไม่เหลือผู้ป่วย COVID-19 เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 8 เดือน ส่งผลให้พวกเขาอยู่บนเส้นทางของการกำจัดไวรัสอย่างมีประสิทธิภาพ
รัฐที่มีประชากรมากที่สุดของออสเตรเลียแห่งนี้ ไม่พบผู้ติดเชื้อใหม่รายวันเป็นวันที่ 25 ติดต่อกันแล้ว หลังกำหนดข้อจำกัดต่างๆ อย่างเข้มข้นต่อการเคลื่อนไหวของพลเมือง และปิดเศรษฐกิจส่วนใหญ่ รับมือกับจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันที่พุ่งขึ้นแตะระดับพีคสุดมากกว่า 700 คน ในช่วงต้นเดือนสิงหาคม
ทั้งนี้ ผู้ติดเชื้อในรัฐวิกตอเรีย คิดเป็นกว่า 73% ของจำนวนผู้ติดเชื้อสะสมทั่วประเทศ และมีผู้เสียชีวิต คิดเป็น 90% ของผู้เสียชีวิตทั้งหมด โดยจนถึงตอนนี้ ออสเตรเลีย รายงานมีผู้ติดเชื้อสะสมแล้วกว่า 27,800 คน ในนั้นเสียชีวิต 907 ราย