ญี่ปุ่นระงับแคมเปญส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศ “Go To Travel” ใน 2 เมือง หลังพบจำนวนผู้ติดเชื้อ COVID-19 พุ่งขึ้นอย่างมาก ส่งผลกระทบแผนช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจระดับท้องถิ่นของนายกรัฐมนตรีโยชิฮิเดะ ซูงะ
พวกนักวิจารณ์ตำหนิว่าโครงการฟื้นการท่องเที่ยวดังกล่าว เสี่ยงแพร่ระบาดจายเชื้อไวรัส COVID-19 จากเมืองใหญ่ไปยังพื้นที่ชนบท
“เราเห็นพ้องตัดทริปการเดินทางสู่จุดหมายปลายทางซัปโปโร และโอซากา ออกจากแคมเปญท่องเที่ยวชั่วคราว” ยาสึโตชิ นิชิมูระ รัฐมนตรีเศรษฐกิจกล่าว
“แม้เราพยายามสร้างสมดุลระหว่างการฟื้นฟูเศรษฐกิจกับการควบคุมไวรัส แต่เราต้องตัดสินใจเช่นนี้ตามคำร้องขอของรัฐบาลท้องถิ่น” รัฐมนตรีเศรษฐกิจให้สัมภาษณ์ต่อผู้สื่อข่าว หลังพบปะหารือกับนายกรัฐมนตรี และคาซูโยชิ อาคาบะ รัฐมนตรีท่องเที่ยว
อาคาบะบอกว่า ในเบื้องต้นทั้ง 2 เมืองจะถูกกันออกจากแคมเปญท่องเที่ยวไปจนถึงวันที่ 15 ธันวาคม โดยระหว่างนั้นจะไม่ให้สำรองทริปท่องเที่ยวใหม่ๆ ภายใต้โครงการดังกล่าว ซึ่งส่งเสริมการท่องเที่ยวด้วยการลดราคาค่าโดยสาร และค่าโรงแรมที่พัก
เมืองโอซากา ทางตะวันตกของประเทศ รายงานพบผู้ติดเชื้อใหม่ 171 คน ในวันจันทร์ที่ 23 พ.ย. หลังจากพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 286 คน หนึ่งวันก่อนหน้านี้ ส่วนเมืองซัปโปโรรายงานพบผู้ติดเชื้อใหม่รายวัน 140 คน ในวันจันทร์ที่ 23 พ.ย.) หลังรายงานพบผู้ติดเชื้อสูงสุด 197 คนเมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว
ส่วนกรุงโตเกียว เมืองหลวงของประเทศ รายงานพบผู้ติดเชื้อใหม่รายวันทะลุ 500 คน และมีเคสสาหัสแตะระดับ 51 คนในวันอังคารที่ 24 พ.ย. สูงสุดนับตั้งแต่ยกเลิกประกาศสถานการรณ์ฉุกเฉินในเดือนพฤษภาคม
ยูริโกะ โคอิเกะ ผู้ว่าราชการจังหวัดโตเกียว บอกกับผู้สื่อข่าวว่าพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นในหมู่ประชากรคนชรา ในนั้นหลายเคสเป็นกรณีที่ประชาชนติดเชื้อตอนออกไปรับประทานอาหารนอกบ้าน และนำไวรัสมาแพร่สู่คนอื่นๆ ในครอบครัว