“เจมส์ ไดสัน” เศรษฐีนวัตกรเจ้าของแบรนด์ Dyson ลุยพัฒนานวัตกรรมครั้งใหม่ ตั้งงบลงทุน 3.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อพัฒนาสินค้าซึ่งไม่ใช่เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน โดยคาดว่าจะเป็นการพัฒนา “แบตเตอรี่” แม้ว่าจะพับโครงการรถยนต์ไฟฟ้าไปแล้วเมื่อปีก่อน นอกจากนี้ บริษัทยังย้ายสำนักงานใหญ่จากอังกฤษมาปักหลักที่ “สิงคโปร์” อย่างเป็นทางการ พร้อมสร้างฮับซอฟต์แวร์ใน “ฟิลิปปินส์”
Dyson แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าระดับพรีเมียม เป็นที่รู้จักจากเครื่องดูดฝุ่นไร้สายและไดร์เป่าผม ประกาศว่าบริษัทได้ตั้งงบลงทุน 3.6 พันล้านเหรียญสหรัฐเพื่อ “ขับเคลื่อน” สินค้าเทคโนโลยีในน่านน้ำนวัตกรรมสาขาใหม่โดยสิ้นเชิง และจะช่วยให้พอร์ตสินค้าของบริษัท “เติบโตเป็นเท่าตัว” ภายในปี 2025 โดยบริษัทยังไม่ได้แจ้งรายละเอียดสินค้าที่พัฒนาอย่างชัดเจน แต่จะเกี่ยวข้องกับหุ่นยนต์และแมชชีนเลิร์นนิ่ง
ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ Dyson ต้องอกหักซ้ำๆ กับความพยายามสร้างสรรค์นวัตกรรมให้มากกว่าเครื่องใช้ไฟฟ้า ตั้งแต่การลงทุนพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าที่สุดท้ายต้องยอมพับแผนไปเมื่อเดือนตุลาคม 2019 เพราะประเมินแล้วไม่สามารถลดต้นทุนลงไปสู้ในตลาดเชิงพาณิชย์ได้ มีรายงานว่าโครงการนั้นเซอร์ เจมส์ ไดสันต้องสูญเงินส่วนตัวไปกว่า 600 ล้านเหรียญสหรัฐ
ต่อมา เมื่อเกิดสถานการณ์ COVID-19 ทางบริษัท Dyson เร่งออกแบบเครื่องช่วยหายใจเสนอรัฐบาลอังกฤษ ซึ่งตอบรับแผนออกแบบในเดือนมีนาคม แต่มาปฏิเสธการสั่งสินค้าจากบริษัทในเดือนเมษายน ทำให้บริษัทต้องพลาดหวังอีกครั้ง
ธุรกิจ “แบตเตอรี่” ยังน่าสนใจ
อย่างไรก็ตาม ผลพวงจากการวิจัยพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าก็ยังมีประโยชน์หลงเหลือ นั่นคือ “แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า” ซึ่งทีมของ Dyson กล่าวอ้างว่าสามารถพัฒนาจนมีคุณภาพดียิ่งกว่าที่ Tesla ใช้อยู่
เซอร์ เจมส์ ไดสัน ให้สัมภาษณ์กับสื่อหลายสำนักว่า แบตเตอรี่ของบริษัทสามารถใช้ขับเคลื่อนรถยนต์ได้ไกลกว่า 960 กิโลเมตร นั่นหมายความว่า จะสามารถขับรถจากสก็อตแลนด์ไปยังชายฝั่งทางตอนใต้ของอังกฤษได้ด้วยแบตเตอรี่ชุดเดียว
ดังนั้น โครงการรถยนต์ไฟฟ้าของ Dyson ยังไม่ใช่หายนะเสียทีเดียว เพราะเทคโนโลยีแบตเตอรี่โซลิดสเตทน่าจะเป็นน่านน้ำศักยภาพการพัฒนาใหม่ของบริษัท และน่าจะเป็นหนึ่งในอนาคตของธุรกิจตามที่บริษัทได้ประกาศงบลงทุนล่าสุดด้วย
ย้ายฐานทัพไป “สิงคโปร์”
สินค้าใหม่ยังเป็นความลับอยู่ก็จริง แต่สิ่งที่ไม่ลับแล้วคือการทยอยย้ายฐานของ Dyson จากอังกฤษไปยังตะวันออกและจากแถลงการณ์ล่าสุด ประกาศชัดเจนว่าสำนักงานใหญ่จะถูกย้ายไปอยู่สิงคโปร์ โดยมองว่าฐานลูกค้ากลุ่มใหญ่ (รวมถึงการกำกับควบคุมของรัฐที่เป็นมิตรกว่า) นั้นอยู่ในทวีปเอเชีย
Dyson ยืนยันแผนที่จะสร้างออฟฟิศ คอมเพล็กซ์แห่งใหม่ในอาคาร St James Power Station อาคารประวัติศาสตร์ในย่าน Bukit ของสิงคโปร์ โดยจะมีการขยายพื้นที่แล็บวิจัยและพัฒนาขั้นสูงที่นี่ นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนจะสร้างฮับซอฟต์แวร์แห่งใหม่ในฟิลิปปินส์ บริเวณย่าน Alabang ทางใต้ของกรุงมะนิลาประมาณ 15 กม.
ทั้งนี้ ทั้งสิงคโปร์และฟิลิปปินส์ต่างเป็นที่ตั้งของโรงงานผลิตชิ้นส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้าของ Dyson และฮับวิจัยพัฒนาบางส่วนอยู่แล้ว จึงไม่น่าแปลกใจที่จะมีการย้ายฐานและลงทุนเพิ่มในสองประเทศนี้