เมื่อช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา ‘3M’ ผู้ผลิตของใช้ในออฟฟิศและวัสดุอุตสาหกรรมเคยปลดพนักงานถึง 1,500 ตำแหน่ง เนื่องจาก 3M ต้องพยายามหาทางรอดในสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกา และปลายปีนี้ บริษัทได้เตรียมปลดพนักงงานอีก 3% หรือราว 2,900 ตำแหน่ง
โดยข้อมูลสิ้นปี 2019 ของ 3M ระบุว่า บริษัทมีพนักงานจำนวนทั้งหมด 96,163 คน โดย Mike Roman ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร 3M ระบุว่า การที่บริษัทต้องออกมาปลดพนักงานจำนวน 2,900 คนนั้นเป็นผลมาจากการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ที่ทำให้เกิด “การหยุดชะงักของตลาดทั่วโลก ทำให้บริษัทต่าง ๆ ต้องปรับตัวให้เร็วขึ้น”
ทั้งนี้ การปลดพนักงานซึ่งส่งผลกระทบต่อหน่วยธุรกิจทั้งหมดจะทำให้บริษัทต้องเสียเงินประมาณ 300 ล้านดอลลาร์ก่อนหักภาษี 3M ระบุว่า ทิศทางบริษัทจากนี้จะเปลี่ยนโฟกัสและการลงทุนจากตลาดที่เติบโตช้า ไปสู่พื้นที่ที่แข็งแกร่งขึ้น เช่น ตลาดการดูแลสุขภาพและอีคอมเมิร์ซ
ที่ผ่านมาบริษัทได้ผลิตหน้ากาก N95 ที่เป็นที่ต้องการอย่างมากและพยายามผลิตเพื่อให้ทันกับความต้องการ ยอดขายสำหรับภาคการดูแลสุขภาพเติบโตขึ้นมากกว่า 25% ในช่วงผลประกอบการล่าสุด ทั้งนี้ ปีที่ผ่านมาหุ้นของ 3M เป็นหนึ่งในหุ้นที่มีผลการดำเนินงานแย่ที่สุดในดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ แต่อย่างไรก็ตาม หุ้นของ 3M ในปีนี้ลดลงเพียง 2.5%
