สมาคมภัตตาคารแห่งชาติ (NRA) ในสหรัฐฯ ได้ขอให้สภาคองเกรสอนุมัติมาตรการการกระตุ้นใหม่ ๆ เพื่อช่วยเหลืออุตสาหกรรมที่ได้รับความเสียหายจากการระบาดของ COVID-19 ในรอบสองนี้ โดยสมาคมระบุว่า กลุ่มร้านอาหาร 10,000 แห่งอาจปิดใน 3 สัปดาห์ข้างหน้าหากไม่มีมาตรการกระตุ้น
ประมาณ 17% ของร้านอาหารในอเมริกา หรือประมาณ 110,000 ร้านได้ปิดตัวลงอย่างถาวรในปีนี้เนื่องจากการระบาดของ COVID-19 ที่ทำให้ประชาชนต้องกักตัวอยู่แต่ในบ้าน และการระบาดรอบ 2 นี้ คาดว่าจะมีร้านอาหารอีกราว 10,000 แห่งต้องล้มละลายภายใน 3 สัปดาห์
สมาคมภัตตาคารแห่งชาติได้เปิดเผยผลจากการสำรวจผู้ประกอบการร้านอาหาร 6,000 รายว่า ร้านอาหารที่ให้บริการเต็มรูปแบบ 87% มีรายได้ลดลงเฉลี่ย 36% และ 83% คาดว่ายอดขายจะ ‘แย่ลง’ ในช่วง 3 เดือนข้างหน้าเนื่องจากไวรัสยังคงระบาดหนักในสหรัฐอเมริกา และจากการติดตามการฟื้นตัวของร้านอาหารโดย CNN Business พบว่ายอดจองร้านอาหารลดลงถึง 70% ในช่วงการระบาด และกลับมาฟื้นตัวได้ในช่วงเดือนกันยายน แต่ก็ลดลงอีกครั้งตั้งแต่นั้นมา
“ในระยะสั้นอุตสาหกรรมร้านอาหารไม่สามารถรอการบรรเทาทุกข์ได้อีกต่อไป โดยเราหวังให้มีการการประนีประนอมอย่างแท้จริง โดยหวังว่าจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ใหญ่ขึ้นในปี 2564 ภายใต้การบริหารของ Biden ประธานาธิบดีคนใหม่” ฌอน เคนเนดี รองประธานบริหารของกลุ่ม กล่าว
ข้อจำกัดเกี่ยวกับการรับประทานอาหารที่ร้านในบางรัฐของสหรัฐอเมริกาและข้อกำหนดการปิดกั้นอื่น ๆ เช่น เคอร์ฟิวได้ทำลายอุตสาหกรรมร้านอาหาร ส่งผลให้เชนร้านอาหารระดับชาติหลายแห่งถูกฟ้องล้มละลายในปีนี้ อาทิ Ruby Tuesday’s และ California Pizza Kitchen ซึ่งส่งผลให้มีการปิดหน้าร้านหลายร้อยแห่ง
เจ้าของธุรกิจในลอสแองเจลิสที่ถูกบังคับให้ปิดร้านอาหารระบุว่า เขารู้สึกว่าร้านอาหารและธุรกิจขนาดเล็กอื่น ๆ กำลังมุ่งเป้าอย่างไม่เป็นธรรมจากคำสั่งให้อยู่ที่บ้านครั้งใหม่ของแคลิฟอร์เนีย
ทั้งนี้ รัฐบาลสหรัฐเตรียมออกมาตรการที่เรียกว่าพระราชบัญญัติร้านอาหารปี 2020 โดยได้รับการอนุมัติโดยสภาควบคุมประชาธิปไตยในเดือนตุลาคม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 2.2 ล้านล้านดอลลาร์ แต่ยังไม่ได้รับการควบคุมโดยวุฒิสภาที่ควบคุมโดยพรรครีพับลิกัน และไม่มีความชัดเจนว่าจะเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการบรรเทาทุกข์ขั้นสุดท้ายหรือไม่