สหรัฐฯ อนุมัติฉุกเฉินใช้งานวัคซีนป้องกัน COVID-19 ของบริษัท “ไฟเซอร์” (Pfizer) และ “ไบโอเอนเทค เอสอี” (BioNTech SE) โดยคาดว่าจะปล่อยวัคซีนสู่สาธารณะได้อีกในไม่กี่วันข้างหน้า เร็วที่สุดก็ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 14 ธ.ค. เป็นต้นไป
องค์การอาหารและยาสหรัฐฯ (FDA) ระบุว่า เนื่องจากตอนนี้จำนวนวัคซีนยังมีจำกัด จึงจะมีการเเจกจ่ายให้บุคลากรทางการแพทย์ และกลุ่มเสี่ยงอย่างผู้สูงอายุ โดยกลุ่มคนแรกที่จะได้รับการฉีดวัคซีนคือราว 2.9 ล้านโดส ซึ่งทาง Pfizer จะผลิตและจัดส่งให้กับรัฐบาลสหรัฐฯ ก่อนสิ้นปี 2020
ทั้งนี้ การตัดสินใจในทางปฏิบัติจะขึ้นอยู่กับการกำหนดของแต่ละรัฐว่าจะลำดับความสำคัญต่างๆ อย่างไร
ก่อนหน้านี้ วัคซีนของ Pfizer ได้รับการอนุมัติการใช้งานแล้วในอังกฤษ แคนาดา บาห์เรน และซาอุดีอาระเบีย มีผลการทดลองที่ยืนยันประสิทธิภาพในการป้องกัน COVID-19 สูงกว่า 90% โดยเป็นวัคซีนแบบตัดต่อสารพันธุกรรม หรือที่เรียกกันว่า RNA (mRNA)
สำหรับการใช้วัคซีนดังกล่าว FDA เเนะนำว่า ผู้ที่มีประวัติมีอาการแพ้รุนแรง ยังไม่ควรได้รับวัคซีน ณ เวลานี้ เพราะเคยมีกรณีผู้รับวัคซีนชาวอังกฤษ 2 รายมีอาการแพ้รุนแรง
อย่างไรก็ตาม คำแนะนำสำหรับสตรีมีครรภ์ หรือกลุ่มคนที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง ว่าควรได้รับวัคซีนหรือไม่นั้น FDA ยังไม่สามารถระบุได้ชัดเจน โดยขอให้ปรึกษากับแพทย์เป็นการเฉพาะ เเละจำเป็นต้องพิจารณารายๆ ไป
ที่มา : Reuters