ก่อนที่ ‘โดนัลด์ ทรัมป์’ จะลงจากตำแหน่งประธานาธิบดีในเดือนนี้ก็ได้ทิ้งทวนความตึงเครียดให้กับประเทศจีน โดยพยายามที่จะกีดกันไม่ให้บริษัทของจีนเข้ามาทำธุรกรรมในสหรัฐฯ ด้วยเหตุผลในด้านความมั่นคง และคำสั่งล่าสุดก็คือห้ามไม่ให้บุคคลหรือบริษัทอเมริกันทำธุรกรรมใด ๆ กับแอปพลิเคชันของจีนรวมทั้งหมด 8 แอปพลิเคชัน ซึ่งมี ‘วีแชท (WeChat)’ ของบริษัทเทนเซ็นต์ และแอป ‘Alipay’ ของแอนท์ กรุ๊ป ในเครือของอาลีบาบา กรุ๊ป โฮลดิ้ง โดยคำสั่งดังกล่าวคาดว่าจะมีผลบังคับใช้ภายใน 45 วัน หลังจากที่ทรัมป์พ้นจากตำแหน่งแล้ว
ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ทรัมป์ได้แสดงความชัดเจนว่าฝ่ายบริหารของเขาพร้อมที่จะต่อต้านจีนให้ได้มากที่สุด ก่อนที่ ‘โจ ไบเดน’ จะเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีในปลายเดือนนี้ ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวได้ส่งผลให้หุ้นของ 2 บริษัทที่มีมูลค่าสูงสุดของเอเชียลดลงในการซื้อขายวันนี้ โดยหุ้นที่จดทะเบียนในฮ่องกงของอาลีบาบาลดลง 3.9% ในขณะที่หุ้นของ Tencent ลดลง 4.7%
อย่างไรก็ตาม ยังไม่ชัดเจนว่ารัฐบาลสหรัฐฯ จะปฏิบัติตามแผนนี้จริงหรือไม่ เพราะคำสั่งดังกล่าวมีผลบังคับใช้ในวันที่ 11 มกราคม โดยห้ามนักลงทุนสหรัฐฯ เป็นเจ้าของหรือซื้อขายหลักทรัพย์ใด ๆ ที่มาจากบริษัทเหล่านั้น โดยนักลงทุนจะมีเวลาจนถึงเดือนพฤศจิกายน 2564 ในการถอนตัวจากบริษัท
อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่ปัญหาเดียวของทั้ง 2 บริษัท เพราะ Alibaba และ Tencent กำลังถูกสอบสวนจากหน่วยงานกำกับดูแลของจีนในกรณีผูกขาดการค้าในประเทศจีน โดยก่อนหน้านี้รัฐบาลจีนได้สั่งระงับการการเสนอขายหุ้น IPO ของบริษัทแอนท์ กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Alibaba ที่มีมูลค่าสูงถึง 3.5 หมื่นล้านดอลลาร์ เมื่อเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา