บริษัทแบรนด์ลักชัวรีตั้งแต่ LVMH จนถึง Versace กำลังทยอยลดจำนวนพนักงานใน “ฮ่องกง” ลงตั้งแต่ปีก่อน เพื่อปรับย้ายสำนักงานใหญ่ประจำภูมิภาคไปอยู่ที่ “จีน” แทน เนื่องจากฐานตลาดผู้ซื้อกำลังเติบโต ปัจจัยลบนี้จะยิ่งซ้ำเติมตลาดอาคารสำนักงานในฮ่องกงซึ่งคาดว่าอัตราการเช่าของปี 2021 จะลดลงอีก 5-10%
อาคารสำนักงานให้เช่าในฮ่องกงกำลังทรุดลงต่อเนื่องจากปี 2020 โดยภาคธุรกิจล่าสุดที่กำลังทยอยย้ายออกคือกลุ่มบริษัท “แบรนด์เนม” ระดับโลก ซึ่งต้องการย้ายสำนักงานใหญ่ภูมิภาคออกจากฮ่องกงไปยังจีนแผ่นดินใหญ่ ใกล้กลุ่มลูกค้าหลักที่กำลังเติบโตสูง
สำนักข่าว South China Morning Post รายงานอ้างอิงแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องว่า แบรนด์เนมที่กำลังลดจำนวนพนักงานที่ฮ่องกงพร้อมกับเพิ่มทรัพยากรบุคคลในจีน ได้แก่ Versace, Salvatore Ferragamo และเครือยักษ์โลกแฟชั่น LVMH เจ้าของแบรนด์ Louis Vuitton, Bulgari, Fendi, Givenchy และ Celine
แม้แต่บริษัทเครื่องสำอาง L’Oreal ก็กำลังวางแผนลดขนาดออฟฟิศที่ฮ่องกง และจะย้ายสำนักงานใหญ่ภูมิภาคกระจายไปอยู่ที่จีนกับสิงคโปร์แทน ด้านแบรนด์รองเท้าฝรั่งเศส Ash มีแผนจะย้ายสำนักงานไปอยู่ที่เซี่ยงไฮ้ ส่วนแบรนด์เนมอื่นๆ กำลังรอดูสถานการณ์ความเข้มงวดของการข้ามแดน หากมีการผ่อนคลายขึ้น ก็อาจจะมีการย้ายสำนักงานเช่นกัน
จีนแผ่นดินใหญ่กำลังเพิ่มความสำคัญขึ้นในพอร์ตของเหล่าแบรนด์เนม ทั้งยอดขายและกำไรของแบรนด์แฟชั่นใหญ่ๆ ขึ้นอยู่กับตลาดนี้ นอกจากนี้ เศรษฐกิจจีนยังฟื้นตัวอย่างสม่ำเสมอหลังโรคระบาด COVID-19 เพราะนโยบายมุ่งเน้นการบริโภคภายในประเทศของจีนเอง เทียบกับเศรษฐกิจฮ่องกงแล้ว ได้รับผลกระทบรุนแรงกว่าตั้งแต่ช่วงการประท้วงยาวนานหลายเดือนช่วงครึ่งปีหลังปี 2019 และถูกทุบซ้ำด้วยโรคระบาด COVID-19
Prada เป็นแบรนด์หนึ่งที่ฉายภาพความต่างของสองตลาดนี้ได้ชัดเจน ในช่วงครึ่งปีหลัง 2020 แบรนด์ Prada มียอดขายในจีนพุ่งขึ้นถึง 52% เทียบกับปี 2019 ที่แบรนด์ชิงปิดสาขาแฟลกชิปสโตร์ที่ฮ่องกงไปก่อนแล้ว เนื่องจากมู้ดของผู้บริโภคเป็นเทรนด์ขาลง
- ตลาด “ลักชัวรี” จีนฟื้นเร็ว คนรวยแห่ซื้อเเบรนด์เนม ยอดขาย Prada กลับมาโตกว่าปีก่อน COVID-19
- “Gucci” เตรียมเปิดขายบน Tmall Luxury Pavilion อีคอมเมิร์ซตลาดสินค้าหรูของจีน
“มาริโอ ออร์เตลลี” หุ้นส่วนผู้จัดการที่ Ortelli&Co บริษัทที่ปรึกษาด้านแบรนด์ลักชัวรี กล่าวว่า เป็นเรื่องที่เหมาะสมที่แบรนด์ต่างๆ จะย้ายสำนักงานไปจีนซึ่งตลาดเติบโตแข็งแรง และค่าเช่าออฟฟิศก็ถูกกว่า ขณะที่ในฮ่องกงเริ่มมี expat และบุคลากรที่เป็นกลุ่มทาเลนต์น้อยลง
นอกจากจีนแล้ว คาดกันว่าอีกหนึ่งประเทศที่จะได้รับอานิสงส์คือ “สิงคโปร์” กรณีที่แบรนด์ต้องการเจาะตลาดที่เล็กกว่าแต่เติบโตได้ดีในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงประเทศ “ออสเตรเลีย” ที่น่าสนใจมากขึ้น
เทรนด์การย้ายออกของสำนักงานใหญ่แบรนด์ลักชัวรีไม่ใช่ข่าวดีของตลาดอาคารสำนักงานฮ่องกง บริษัทที่ปรึกษาด้านอสังหาฯ Savills รายงานว่า ปี 2020 ตลาดออฟฟิศเกรดเอของฮ่องกงมีอัตราการเช่าลดลงถึง 17% ต่ำที่สุดในรอบ 11 ปี หลังจากอัตราการว่างงานพุ่งสูง และจำนวนบริษัทยื่นขอล้มละลายเริ่มสูงขึ้น ส่วนปี 2021 คาดการณ์ว่าออฟฟิศเกรดเอจะมีอัตราการเช่าลดลงอีก 5-10% และราคาเช่าจะลดลงอีก 2-5% ก่อนจะถึงจุดต่ำสุดภายในครึ่งปีแรก 2021
ตลาดสินค้าแบรนด์เนมในฮ่องกงผูกติดอยู่กับการจับจ่ายของกลุ่มนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนแผ่นดินใหญ่อยู่แล้ว เมื่อเผชิญสถานการณ์การระบาดของ COVID-19 สถานการณ์จึงยิ่งหนักข้อขึ้น และนำไปสู่การย้ายสำนักงาน