‘เสียวหมี่’ ก็ไม่รอด! ถูกฝ่ายบริหารทรัมป์ ‘Blacklist’ ข้อหาเกี่ยวข้องกับทหารคอมมิวนิสต์จีน

(Photo by Alex Tai/SOPA Images/LightRocket via Getty Images)

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาก่อนที่ ‘โดนัลด์ ทรัมป์’ จะลงจากตำแหน่งประธานาธิบดีในเดือนนี้ ก็ได้ทิ้งทวนแบน 8 แอปพลิเคชันของจีน ซึ่งมี ‘วีแชท (WeChat)’ ของบริษัทเทนเซ็นต์ และแอป ‘Alipay’ ของแอนท์ กรุ๊ป ในเครือของอาลีบาบา กรุ๊ป โฮลดิ้ง ล่าสุด ฝ่ายบริหารของทรัมป์ก็ขึ้นบัญชีดำ (Blacklist) ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนจีนชื่อดังอย่าง ‘เสียวหมี่ (Xiaomi)’

เสียวหมี่ เป็น 1 ใน 9 บริษัทที่ถูกเพิ่มเข้าในรายชื่อบัญชีดำในครั้งใหม่นี้ ซึ่งประกอบด้วย AMEC, LKCO, Beijing Zhongguancun Development Investment Center, GOWIN Semiconductor Corp, GCAC, GTCOM, CNAH, COMAC โดยทั้งหมดที่ถูกขึ้นบัญชีดำด้วยสาเหตุ “มีความเกี่ยวข้องกับทหารคอมมิวนิสต์จีน” ซึ่งนี่ถือเป็นส่วนหนึ่งของการผลักดันขั้นสุดท้ายเพื่อ ‘กดดันปักกิ่ง’ ก่อนที่ ‘ประธานาธิบดีโจ ไบเดน’ ที่ได้รับเลือกจะเข้ารับตำแหน่งในเดือนนี้

ร้าน Xiaomi ในเมืองนานจิง มณฑลเจียงซู (photo: CookieWei / Shutterstock.com)

ภายใต้คำสั่งบริหารที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ลงนามในเดือนพฤศจิกายน ทำให้นักลงทุนสหรัฐฯ ต้องชะลอการลงทุนในบริษัทที่มีรายชื่อภายในเดือนพฤศจิกายนปีหน้า โดย ‘Keith Krach’ ปลัดกระทรวงการเติบโตทางเศรษฐกิจพลังงานและสิ่งแวดล้อมของกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันพฤหัสบดีว่า “สาธารณชนได้รับคำเตือนอย่างเพียงพอเกี่ยวกับความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการลงทุน”

ที่ผ่านมา เสียวหมี่ ได้มียอดขายสมาร์ทโฟนแซงหน้า ‘Apple’ ในช่วงไตรมาสที่ 3 ปี 2020 ตามข้อมูลของ International Data Corporation จากนั้นบริษัทก็เข้าในตลาดหลักทรัพย์ ‘Hang Seng Index’ ของฮ่องกงในเดือนกันยายน หลังจากคว้าส่วนแบ่งการตลาดจาก ‘หัวเว่ย’ Huawei Technologies Co. เนื่องจากการคว่ำบาตรของสหรัฐฯต่อ Huawei เพิ่มมากขึ้น

จากนี้คงต้องจับตาว่าอนาคตที่กำลังสดใสของเสียวหมี่จะดับวูบไหม เพราะอย่างกรณีหัวเว่ยที่ถูกขึ้นบัญชีดำไปก่อนหน้านี้ก็ทำให้ใช้งาน Google ไม่ได้ ซึ่งทำให้หัวเว่ยต้องออก ‘HarmonyOS’ หรือ ‘HongmengOS’ ของตัวเองมาใช้ ดังนั้นคงต้องรอดูว่าจะเกิดผลกระทบกับเสียวหมี่ในทิศทางไหนบ้าง และจะหนักหนาเหมือนกันกรณีของหัวเว่ยหรือไม่

Source

Source