รัฐมนตรีต่างประเทศจีน หวัง อี้ ให้คำมั่นวันเสาร์ที่ 16 ม.ค. ระหว่างเยือนฟิลิปปินส์ให้คำมั่นกับผู้นำมะนิลาว่า รัฐบาลปักกิ่งจะบริจาควัคซีน COVID-19 ให้กับฟิลิปปินส์รวมไปถึงเร่งการลงทุนในระบบโครงสร้างพื้นฐานเพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ชาติ
บลูมเบิร์ก สื่อธุรกิจรายงานว่า ในระหว่างการพบปะกับรัฐมนตรีต่างประเทศฟิลิปปินส์ ทีโอโดโร โลเปซ ล็อกซิน จูเนียร์ และประธานาธิบดีฟิลิปิปนส์ โรดริโก ดูเตอร์เต เมื่อวันเสาร์ที่ 16 ม.ค. รัฐมนตรีต่างประเทศจีน หวัง อี้ ได้กล่าวออกมาผ่านแถลงการณ์กระทรวงต่างประเทศฟิลิปปินส์มีใจความว่า
“การฟื้นของชาติทั้งหลายขึ้นอยู่กับเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งขึ้น” ดูเตอร์เตกล่าวและเสริมต่อว่า “จีนมีบทบาทสำคัญในการพลิกฟื้นภูมิภาคของเรา ขอให้พวกเราทำทุกสิ่งเท่าที่จะทำได้ในการพลิกฟื้นความเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจระหว่างฟิลิปปินส์และจีน”
หวังซึ่งในเวลานี้อยู่ในระหว่างการเดินทางเยือนภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งรวมถึงพม่าและอินโดนีเซีย เดินทางมาถึงกรุงมะนิลาในวันศุกร์ที่ 15 ม.ค. การเยือนของเขาเกิดขึ้นท่ามกลางปัญหาความขัดแย้งทะเลจีนใต้ที่ยังค้างคา ซึ่งมีฟิลิปปินส์รวมอยู่ในกลุ่มคู่ขัดแย้งและเกิดขึ้นก่อนที่ว่าที่ประธานาธิบดี โจ ไบเดน จะสาบานตัวเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 ม.ค นี้
CNN ฟิลิปปินส์รายงานเพิ่มเติมว่า ในการปิดห้องหารือ หวังได้แจ้งต่อล็อกซินว่า รัฐบาลปักกิ่งต้องการบริจาควัคซีน COVID-19 เพื่อช่วยเหลือมะนิลา โดยมีรายงานว่ามีจำนวน 500,000 โดส แต่ไม่มีการเปิดเผยถึงชื่อของวัคซีนที่จะถูกบริจาคออกมา
ทั้งนี้มีรายงานก่อนหน้าว่า ปักกิ่งได้เสนอตัวช่วยเหลือด้วยการบริจาควัคซีน COVID-19 จำนวน 1 ล้านโดสให้แก่กัมพูชา และ 300,000 โดสให้กับพม่าในการเยือนทริปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของหวังครั้งนี้
สำหรับในส่วนของล็อกซินได้เรียกการเริ่มต้นให้ภูมิคุ้มกันวัคซีน COVID-19 แก่ประชาชนว่า “เป็นจุดเปลี่ยน” ของการต่อวิกฤตโรคระบาดที่กำลังระบาดไปทั่วโลก มะนิลาต้องการสั่งซื้อวัคซีน COVID-19 จีน ซิโนแวคจำนวน 25 ล้านโดส โดยคาดหวังว่าจะสามารถให้การแจกจ่ายแก่ประชาชนได้ 50,000 โดสในเดือนกุมภาพันธ์
ซึ่งท่ามกลางความวิตกถึงประสิทธิภาพและราคาของซิโนแวคที่มีข่าวว่ามีประสิทธิภาพไม่สูง ทางเจ้าหน้าที่ฟิลิปปินส์ชี้ว่า ทางมะนิลาสามารถตัดสินใจไม่เลือกวัคซีนตัวนี้หากไม่ผ่านองค์การอาหารและยาฟิลิปปินส์ FDA แต่อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาทั้งผู้นำอินโดนีเซีย โจโก วิโดโด และประธานาธิบดีตุรกี เรเจป ไตยิป แอร์โดอัน ที่ต่างเพิ่งได้รับวัคซีนจีนตัวนี้ไปสัปดาห์ที่ผ่านมา
และในการหารือทั้งหวังและล็อกซินยังกล่าวย้ำอีกครั้งว่า ทั้งจีนและฟิลิปปินส์เห็นสมควรที่จะไม่ให้ความสนใจในส่วนที่เห็นต่างชั่วคราวเพื่อก้าวไปสู่ความร่วมมือมากขึ้น โดยดูเตอร์เตเห็นด้วยที่ต้องการให้ฟิลิปปินส์เข้าหาจีนอย่างมีความฉันมิตรเพิ่มมากขึ้น
อ้างอิงจากบลูมเบิร์ก มะนิลากล่าวยืนยันว่า ปักกิ่งจะไม่ใช้ประโยชน์จากวัคซีนการทูตเพื่อให้ได้แต้มต่อทางเขตความขัดแย้งในทะเลจีนใต้
นอกจากนี้จีนยังตกลงที่จะให้เงินกู้จำนวน 500 ล้านหยวน หรือราว 77 ล้านดอลลาร์สำหรับโครงการพัฒนาด้านโครงสร้างพื้นฐานแก่ฟิลิปปินส์นอกเหนือจากเรื่องอื่นๆ แถลงการณ์กล่าว โดยทางหวังให้คำมั่นที่จะทำให้โครงการด้านโครงสร้างพื้นฐานที่ปักกิ่งให้การสนับสนุนเสร็จสมบูรณ์
หวังชี้ว่าโปรเจกต์สร้างสะพาน 400 ล้านดอลลาร์ได้ผ่านการอนุมัติขั้นสุดท้ายแล้ว ซึ่งโปรเจกต์นี้จะสร้างสะพานเชื่อมระหว่างเกาะซามาล (Samal Island) ไปยังเมืองดาเวา บ้านเกิดของดูเตอร์เต และโปรเจกต์ระบบรางสำหรับรถไฟสินค้าอีก 940 ดอลลาร์ ที่เชื่อมระหว่างโซนฟรีพอร์ตอ่าวซูบริค (Subic Bay) และสนามบินคล๊าก (Clark airport)