ไนท์แฟรงค์สรุปตลาดคอนโดมิเนียม “หัวหิน” ปี 2563 ยอดขายต่อปีตกฮวบเกิน 50% จากปกติ ราคาปรับลดเล็กน้อย 1.1-2.3% ขึ้นอยู่กับทำเล เชื่อปี 2564 ยังคงอยู่ในภาวะโอเวอร์ซัพพลายและลดราคาลงอีกเพื่อปิดการขาย จนกว่าจะเปิดประเทศและมีกำลังซื้อต่างชาติช่วยเสริม
ณัฏฐา คหาปนะ รองกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าสำนักงาน “ไนท์แฟรงค์” ภูเก็ต ที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ วิเคราะห์ตลาดคอนโดมิเนียมตากอากาศทำเล “หัวหิน” สรุปปี 2563 ยอดขายตกแรงไม่ต่างจากในกรุงเทพฯ
โดยทำเลนับรวมตั้งแต่ ชะอำ หัวหิน และเขาเต่า มีซัพพลายสะสม 27,569 ยูนิต ปี 2563 มีโครงการเปิดใหม่เพียง 2 โครงการ จำนวนรวม 348 ยูนิต อัตราการขายเฉลี่ย 75% ของซัพพลายสะสมทั้งหมด
เฉพาะปี 2563 มียอดขายใหม่ทั้งหมด 689 ยูนิตเท่านั้น ซึ่งต่ำกว่ายอดขายปกติในรอบ 5 ปีที่ผ่านมาคอนโดฯ ทำเลหัวหินมักจะขายได้เฉลี่ยปีละ 1,400 ยูนิต สะท้อนให้เห็นว่ายอดขายตกลงไปเกิน 50% จากเหตุโรคระบาด COVID-19
สถานการณ์การขายคอนโดฯ ในหัวหินค่อนข้างทรงตัวมาตั้งแต่ปี 2559-62 ซึ่งทำยอดขายปีละประมาณ 1,400 ยูนิตดังกล่าว เทียบกับก่อนหน้านี้หัวหินเคยบูมที่สุดเมื่อปี 2555 ที่ขายได้กว่า 3,100 ยูนิตภายในปีเดียว ก่อนจะลดลงตามลำดับ
ด้านราคาคอนโดฯ หัวหินเริ่มได้รับผลกระทบจากภาวะดีมานด์ขาดแคลน แบ่งเป็นคอนโดฯ ที่มองเห็นวิวทะเล ราคาเฉลี่ยจะอยู่ที่ 130,000 บาท/ตร.ม. ลดลง 1.1% จากปี 2562 ส่วนคอนโดฯ ที่ไม่เห็นวิวทะเล (จำนวนห้องชุดมากกว่า 50% ของโครงการไม่เห็นทะเล) ได้รับผลกระทบมากกว่า ราคาเฉลี่ยจะอยู่ที่ 72,000 บาท/ตร.ม. ลดลง 2.3% จากปีก่อนหน้า
สำหรับดีมานด์ของปีที่แล้ว 90% ของผู้ที่ซื้อคอนโดฯ หัวหินปีก่อนเป็นคนไทย ส่วนใหญ่เป็นคนกรุงเทพฯ ที่ต้องการบ้านพักตากอากาศวันเสาร์-อาทิตย์
ส่วนอีก 10% เป็นชาวต่างชาติ ส่วนใหญ่เป็นชาวสแกนดิเนเวีย (นอร์เวย์, สวีเดน, เดนมาร์ก) เสริมด้วยชาวอังกฤษ ฝรั่งเศส สวิส เยอรมันและจีนเล็กน้อย จุดประสงค์การซื้อคือมักจะมีสามี/ภรรยาเป็นชาวไทย จึงต้องการซื้อไว้เป็นที่อยู่อาศัยของตนเองหลังเกษียณหรือใช้พักผ่อนวันหยุดยาวปีละ 3-6 เดือน
ดีมานด์ที่หดลงของปีก่อน จะเห็นได้ว่าเพราะกำลังซื้อทั้งคนไทยและคนต่างชาติลดลงด้วยปัญหาเศรษฐกิจ จะเหลือเฉพาะ “กลุ่มระดับบนที่ยังมีเงินสดในมือ” จึงจะลงทุน ทำให้กลุ่มที่ขายได้จะแยกเป็น 2 กลุ่ม คือคอนโดฯ ระดับไฮเอนด์ที่บริหารโดยเชนโรงแรม 5 ดาว กับกลุ่มคอนโดฯ สร้างเสร็จพร้อมอยู่ที่ลดราคาแรง จูงใจนักลงทุนที่มีเงินเย็นได้สำเร็จ
ไนท์แฟรงค์วิเคราะห์สถานการณ์คอนโดฯ หัวหินปี 2564 น่าจะยังเป็นอีกปีที่โอเวอร์ซัพพลาย เพราะยังเหลือยูนิตขายอีกจำนวนมาก แม้ว่าผู้พัฒนาจะเลื่อน/ชะลอโครงการใหม่ไปแล้วก็ตาม ส่วนราคาก็น่าจะลดลงอีกเพราะโครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่ที่เหลือขายจะลดราคาแรงเพื่อให้ปิดการขายเร็ว
ปัจจัยบวกที่จะทำให้หัวหินดีขึ้นคือโรคระบาด COVID-19 เริ่มคลี่คลาย ชาวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศได้ และอีกส่วนหนึ่งคือปัจจัยด้านโครงสร้างคมนาคม เมื่อทางด่วนพระราม 2 ที่จะเริ่มจากบางขุนเทียนลงแยกวังมะนาวสร้างเสร็จ (เฟส 1 บางขุนเทียน-เอกชัย จะเสร็จปี 2565) จะช่วยผลักดันตลาดคอนโดฯ หัวหินให้กลับมา ทั้งคนไทยเองและชาวต่างชาติที่จะสนใจหัวหินมากขึ้นเพราะเดินทางสะดวกจากกรุงเทพฯ