ผลทดลอง “ซิโนแวค” เฟส 3 ยับยั้งการเสียชีวิตได้ แต่ป้องกันการติดเชื้อแค่ 50%

(Photo by Zhang Jingang/VCG via Getty Images)
ซิโนแวค ไบโอเทค เผยผลการทดลองวัคซีนโคโรนาแวคขั้นสุดท้ายที่บราซิล และตุรกี พบสามารถป้องกัน 100% ไม่ให้ผู้ป่วย COVID-19 มีอาการรุนแรงจนต้องเข้าโรงพยาบาล หรือถึงขั้นเสียชีวิต ทว่ามีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อได้เพียงแค่ 50%

จากผลการทดลองในกลุ่มอาสาสมัครที่อายุเกิน 18 ปีจำนวน 12,396 รายพบว่า วัคซีนโคโรนาแวคมีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อเพียง 50.65% แต่ช่วยยับยั้งการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล (Hospitalization) และการเสียชีวิตได้ถึง 100% และหลีกเลี่ยงเคสผู้ป่วยที่ต้องรับการรักษา (Medical Treatment) ได้ 83.7%

การทดลองในเฟสที่ 3 นี้มุ่งประเมินประสิทธิภาพของวัคซีนโคโรนาแวค หลังจากที่กลุ่มอาสาสมัครซึ่งรวมถึงบุคลากรด้านสาธารณสุขที่ดูแลผู้ป่วย COVID-19 ได้รับวัคซีนจำนวน 2 โดสไปแล้วเป็นเวลา 14 วัน

สำหรับการทดลองเฟส 3 ในตุรกีนั้นจะแบ่งอาสาสมัครออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ บุคลากรทางการแพทย์ และบุคคลทั่วไป ซึ่งพบว่าวัคซีนให้ผลในการป้องกันการติดเชื้อ 91.25%

เมื่อต้นเดือน ม.. ปีนี้ นักวิจัยบราซิลได้เผยผลการทดลองเบื้องต้นซึ่งพบว่า วัคซีนโคโรนาแวคสามารถป้องกันการติดเชื้อแบบแสดงอาการ (Symptomatic infections) ได้เพียง 50.4%

ทั้งนี้ วัคซีนตัวอื่นๆ ก็มีระดับประสิทธิภาพที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละประเทศที่ใช้งาน ซึ่งสะท้อนถึงผลกระทบจากการเกิดขึ้นของไวรัสกลายพันธุ์โดยเฉพาะสายพันธุ์ในอังกฤษ, แอฟริกาใต้ และบราซิล ซึ่งสามารถแพร่กระจายได้ไวกว่า COVID-19 สายพันธุ์ดั้งเดิม

สำหรับวัคซีนของไฟเซอร์/ไบโอเอ็นเทค และวัคซีนของ โมเดอร์นา อิงค์ มีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อ และอาการป่วยสูงถึง 95% ตามผลการทดลองขั้นสุดท้ายในสหรัฐอเมริกา ก่อนที่จะมีรายงานเรื่องการระบาดของ COVID-19 กลายพันธุ์

โครงการฉีดวัคซีนของบราซิลนั้นใช้วัคซีนของโคโรนาแวค และวัคซีนของอ็อกซ์ฟอร์ด/แอสตราเซเนกาเป็นหลัก ซึ่งทั้ง 2 ตัวได้ผ่านการอนุมัติรับรองใช้งานในกรณีฉุกเฉินแล้ว

Source