Photo : Shutterstock
ธนาคารกสิกรไทยเดินหน้าสู่การเป็นธนาคารแห่งภูมิภาค AEC+3 (The Bank of AEC+3) หลังได้รับอนุมัติการเปิดสาขาที่นครโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม จากธนาคารกลางแห่งเวียดนาม (State Bank of Vietnam) เพื่อรองรับการให้บริการลูกค้าธุรกิจของไทยที่เข้าไปลงทุนในเวียดนาม รวมถึงลูกค้าธุรกิจรายใหญ่ ลูกค้าผู้ประกอบการ และลูกค้ารายย่อยในท้องถิ่น โดยตั้งเป้ายอดสินเชื่อปีแรก 10,000 ล้านบาท พร้อมลงทุนใน Start-up เพื่อแสวงหาดิจิทัลเทคโนโลยีชั้นนำ เพื่อสร้างโอกาสและต่อยอดธุรกิจ
ภัทรพงศ์ กัณหสุวรรณ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า
ธนาคารกสิกรไทยได้รับใบอนุญาตในการเปิดสาขาที่นครโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนามแล้ว เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2564 ที่ผ่านมา ขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมการเปิดสาขา ซึ่งคาดว่าจะเปิดให้บริการทั้งลูกค้าเวียดนาม นักธุรกิจไทยและต่างชาติที่เข้าไปลงทุนในเวียดนามได้ภายในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้
โดยมองเห็นโอกาสทางธุรกิจจากความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจเวียดนามที่กำลังถูกจับตามองในฐานะศูนย์กลางการลงทุนของบริษัทชั้นนำของโลกและบริษัทจากประเทศไทย เห็นได้จากการที่เวียดนามเป็นประเทศเดียวในอาเซียนที่มีตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจในเชิงบวก
นอกจากนี้ ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ยังเป็น 1 ใน 4 เศรษฐกิจของโลกที่มีอัตราการเติบโตของ GDP สูงสุด และไอเอ็มเอฟได้ประเมินว่าเศรษฐกิจเวียดนามจะฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งในปีนี้ด้วยตัวเลขการเติบโตถึง 6.5% ทำให้เวียดนามเป็นประเทศที่เป็นที่จับตามองจากกลุ่มนักลงทุนต่างชาติ ทั้งเอเชียและตะวันตกที่เข้าไปลงทุนในเวียดนามกันอย่างต่อเนื่อง
ด้วยปัจจัยดังกล่าว ส่งผลให้ธนาคารฯ ได้ศึกษาเรียนรู้การให้บริการลูกค้าผ่านสำนักงานผู้แทน 2 แห่ง ณ กรุงฮานอยและนครโฮจิมินห์ เพื่อเตรียมพร้อมต่อการยกระดับการให้บริการจากสำนักผู้แทนสู่ธนาคารกสิกรไทย สาขานครโฮจิมินห์ มุ่งเน้นให้บริการแก่บริษัทของไทย จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ที่ต้องการขยายธุรกิจไปเวียดนามเพื่อการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ รวมทั้งผู้ประกอบการท้องถิ่นโดยเฉพาะกลุ่มที่ทำธุรกิจกับลูกค้าบริษัทไทย
หลังจากการจัดตั้งสาขานครโฮจิมินห์ภายในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ ได้กำหนดเป้าหมายการดำเนินธุรกิจมุ่งเน้นให้บริการกับกลุ่มธุรกิจที่มีความเกี่ยวข้องกับลูกค้าไทย โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจเทรดดิ้ง ธุรกิจบริการ ธุรกิจโครงสร้างพื้นฐาน และธุรกิจอุตสาหกรรม
รวมถึงการขยายการให้บริการไปสู่ลูกค้ารายย่อยผ่านผลิตภัณฑ์เงินฝาก สินเชื่อบุคคล และการนำเอาเทคโนโลยีในการผู้นำด้านดิจิทัลแบงกิ้งและโมบายแบงกิ้งของธนาคารกสิกรไทย และความร่วมมือกับ Tech Start-up ท้องถิ่นผ่านการลงทุนของ KVision มาช่วยในการให้พัฒนาบริการเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ารายย่อยในเวียดนาม
ซึ่งมีสัดส่วนผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตถึง 70% จากจำนวนประชากร 90 ล้านคน และมูลค่าของตลาดที่สูงถึง 1.3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2563 ที่ผ่านมา ซึ่งต่างจากการเข้าไปทำธุรกิจในประเทศ AEC+3 อื่นๆ ที่จะเน้นให้บริการธุรกิจระหว่างประเทศเป็นหลัก โดยมีเป้าหมายผลประกอบการไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ เป็นยอดเงินฝาก 1,200 ล้านบาทและสินเชื่อ 10,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ ธนาคารฯ จะยังคงสำนักงานผู้แทนที่กรุงฮานอยไว้ เพื่อให้บริการและทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงานระหว่างธนาคารกสิกรไทย สำนักงานใหญ่ กับลูกค้าไทยที่ขยายธุรกิจไปในเวียดนาม ทางตอนเหนือ ดูแลโครงการลงทุนที่ได้รับสินเชื่อจากธนาคารกสิกรไทย เตรียมข้อมูลตลาดเวียดนามเพื่อสนับสนุนการวางแผนธุรกิจให้แก่ลูกค้า สนับสนุนกิจกรรมการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศไทยกับเวียดนาม รวมทั้งการดูแลลูกค้ากลุ่มผู้ส่งออกเวียดนามในการเข้าถึงตลาดอาเซียนผ่านเครือข่ายระหว่างประเทศ
การที่ธนาคารกสิกรไทยได้รับการอนุมัติในการจัดตั้งจากธนาคารกลางแห่งเวียดนาม (State Bank of Vietnam) เพื่อดำเนินธุรกิจในเวียดนามในครั้งนี้ เป็นการตอกย้ำถึงยุทธศาสตร์ของธนาคารในการก้าวสู่การเป็นธนาคารแห่งภูมิภาค AEC+3 อย่างสมบูรณ์แบบ ที่จะสามารถเชื่อมต่อการให้บริการผ่านเครือข่ายของธนาคารในรูปแบบที่หลากหลาย ทั้งการเป็นธนาคารท้องถิ่น สาขาของธนาคาร สำนักงานผู้แทน และสถาบันทางการเงินที่เป็นพันธมิตรของธนาคาร
โดยปัจจุบันธนาคารกสิกรไทยมีเครือข่ายการให้บริการในต่างประเทศในกลุ่มประเทศ AEC+3 และประเทศอื่น ๆ รวมทั้งสิ้น 16 แห่ง และพันธมิตรกว่า 84 แห่งทั่วโลก
Related