พรินเตอร์จังหวะฮิพฮอพ

“ฮิพฮอพ” กับ “พรินเตอร์” ดูไม่น่าจะคู่กันได้ แต่ก็เป็นไปแล้ว เมื่อ “แคนนอน” ดึง “ไทเทเนียม” มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ในสื่อโฆษณาให้กับเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ท “Pixma Wi-Fi” เพื่อสร้างความจดจำ มาช่วยรักษาแชมป์ตลาดพรินเตอร์ในกลุ่มอิงค์เจ็ทไว้ให้ได้ หลังจากคู่แข่งอย่าง “เอปสัน” มาแรงเบียดประชิดจนสามารถข้ามเอชพีมาด้วยส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 2 แล้ว

ตลาดพรินเตอร์แบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ คือ ลูกค้าองค์กรที่ใช้เลเซอร์พรินเตอร์เป็นหลัก ทั้งซิงเกิลฟังก์ชัน หรือพรินต์อย่างเดียวกับ ออลอินวัน ที่สามารถใช้งานแฟกซ์และสแกนได้ ซึ่งแคนนอนยังทำได้แค่อยู่ในตำแหน่งอันดับ 3 ไม่อาจชิงตลาดเอชพีได้ และยังแพ้แม้กระทั่งซัมซุง

เกมนี้แคนนอนจึงต้องเลือกลุยเต็มที่กับตลาดลูกค้าทั่วไปด้วยอิงค์เจ็ท ที่ไม่เพียงเพิ่งประกาศเมื่อวันที่ 21 กันยายนว่าจะลงทุนกว่า 5 พันล้านบาทตั้งโรงงานอิงค์เจ็ทในไทยเป็นแห่งที่สองเพื่อป้อนตลาดในไทยและส่งออกเท่านั้น แต่เพราะอิงค์เจ็ทมีจำนวนยูนิต และมูลค่าตลาดสูงกว่า ตามไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ที่นิยมพรินต์ภาพเอง จากการเติบโตของกล้องดิจิตอลมีมากขึ้นเรื่อยๆ

แคนนอนทำตลาดแบรนด์ลูก “Pixma” ในตลาดพรินเตอร์มานาน 10 ปี ด้วยกลยุทธ์การตลาดที่ผ่านมาเคยใช้พรีเซ็นเตอร์สาวหวาน อย่าง พอลล่า เทเลอร์ และ แป้ง อรจิรา แต่มาถึงยุคนี้ ต้องขยับกันในจังหวะฮิพฮอพ ด้วย “สุดล้ำ…สุดเท่…ไว-ไฟ…” ที่ร้องโดย “ไทเทเนียม” เพราะตัวเลือกในตลาดพรินเตอร์ไร้สายมีหลายแบรนด์ และดูภายนอกเหมือนกันหมด หาก Pixma จะเล่าเรื่องเรื่องเทคโนโลยี Wi-Fi เท่านั้น คงไม่ใช่ง่ายที่ลูกค้าจะจำได้ จึงเลือกมีพรีเซ็นเตอร์เพื่อทำให้ลูกค้าจำได้ง่ายขึ้น

ทำไมต้องเป็น “ไทเทเนียม” ? “วรินทร์ ตันติพงศ์พานิช” ผู้อำนวยการอาวุโส และผู้จัดการทั่วไปส่วนงานคอนซูเมอร์ อิมเมจจิ้ง แอนด์ อินฟอร์เมชั่น บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) บอกว่าไทเทเนียมเป็นคนรุ่นใหม่มีไลฟ์สไตล์ที่ใช้ไอที จึงสมเหตุสมผลในแง่ไลฟ์สไตล์ของพรีเซ็นเตอร์ ที่แสดงการสั่งพิมพ์ด้วยไอโฟนและแม็คบุ๊ก ได้อย่างเป็นธรรมชาติ

ความดังของไทเทเนียมที่มีแฟนคลับจำนวนมาก หากดูจากแฟนเพจ Facebook มีเกือบ 30,000 คน มีผู้ตามทวิตเตอร์กว่า 4,000 คน จึงเป็นสื่อที่ช่วยเข้าถึง Young Generation มากขึ้น ทำให้แบรนด์หนุ่มสาวมากขึ้น ดังนั้นนอกจากสื่อผ่านทีวีซี โฆษณาสิ่งพิมพ์ และ ณ จุดขายแล้ว ไทเทเนียมยังตอบโจทย์เรื่องของการจัดอีเวนต์ออนทัวร์ไปโรดโชว์ในต่างจังหวัดด้วย ซึ่งกิจรรมแบบนี้จำเป็นมากในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ทั่วประเทศ

20 ล้านบาทคือแคมเปญครั้งนี้ ภายในประมาณ 3 เดือนที่ “วรินทร์” บอกว่าเป็นงบที่สูงพอสมควร แต่ก็คุ้มค่า เพราะคนจดจำได้และแยกจากคู่แข่งได้ชัดเจน ด้วยดัชนีชี้วัดความสำเร็จคือดีลเลอร์ต่างจังหวัดและลูกค้าต่างเรียกว่าพรินเตอร์รุ่นไทเทเนียมไปแล้ว

เซ็กเมนต์ลูกค้าพรินเตอร์

1.กลุ่มธุรกิจเลเซอร์พรินเตอร์ ตลาดรวม 2.3 แสนเครื่อง
เอชพี 35%
ซัมซุง 30%
แคนนอน 19%
อื่นๆ 16%
2.กลุ่มลูกค้าทั่วไปอิงค์เจ็ทตลาดรวม 8 แสนเครื่อง
แคนนอน 43%
เอปสัน 28%
เอชพี 22%
อื่นๆ 7%
3.สัดส่วนรายได้ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของแคนนอน
กล้อง 50%
พรินเตอร์ 36%
เครื่องถ่ายเอกสาร 10%
อื่นๆ 4%
    ราคาเฉลี่ยเครื่องพรินเตอร์ที่ได้รับความนิยมในตลาด

  • กลุ่มออลอินวัน (ที่มีแฟกซ์ และสแกน) 2-3 พันบาท
  • ซิงเกิลฟังก์ชัน 1-2 พันบาท