แถลงการณ์ร่วมจากโฟล์กสวาเกน และไมโครซอฟท์ระบุว่า เป้าหมายของทั้งสองบริษัทคือการร่วมกันสร้างแพลตฟอร์มขับขี่อัตโนมัติ (ADP) บนระบบคลาวด์ เพื่อพัฒนาระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่และฟังก์ชันการขับขี่อัตโนมัติที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เดิร์ก ฮิลเกนเบิร์ก ผู้บริหารคาร์.ซอฟต์แวร์ ออร์แกไนเซชัน (Car.Software Organization) บริษัทซอฟต์ของแวร์โฟล์กสวาเกน กล่าวในแถลงการณ์ฉบับหนึ่งว่า “การผสานความเชี่ยวชาญด้านการพัฒนาวิธีขับขี่แบบเชื่อมโยงกันของเรา เข้ากับองค์ความรู้ด้านวิศวกรรมซอฟต์แวร์ของไมโครซอฟท์ จะทำให้เราเร่งพัฒนาบริการการขับเคลื่อนที่สะดวกสบายและปลอดภัยได้”
โฟล์กสวาเกน และไมโครซอฟท์ได้ทำงานร่วมกันอยู่แล้วในระบบโฟล์กสวาเกน ออโตโมทีฟ คลาวด์ (VW.AC) ตั้งแต่ปี 2018 โดยคณะวิศวกรของระบบดังกล่าวในนครซีแอตเทิลของสหรัฐฯ ได้ทำแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างยานยนต์กับระบบคลาวด์ ผ่านบริการอาซัวร์ (Azure)
แถลงการณ์ข้างต้นระบุว่า การเชื่อมต่อกับระบบคลาวด์จะทำให้โฟล์กสวาเกนสามารถอัปเดตและเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ของฮาร์ดแวร์ยานยนต์ในอนาคตได้อย่างอิสระ
โฟล์กสวาเกนมีแผนลงทุน 2.7 หมื่นล้านยูโร (ราว 9.79 แสนล้านบาท) ในการเปลี่ยนไปสู่ดิจิทัลภายในปี 2025 และเพิ่มสัดส่วนของตนในด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์รถยนต์จาก 10% เป็น 60%
ทั้งนี้ เมื่อวันพุธที่ 10 ก.พ. ที่ผ่านมา รัฐบาลเยอรมนีได้อนุมัติกฎหมายอนุญาตให้นำการขับขี่อัตโนมัติมาใช้งานในประเทศได้ โดยจะอยู่ในพื้นที่ที่กำหนด โดยกระทรวงคมนาคมเยอรมนีชี้ว่า เป้าหมายของเยอรมนีคือการอนุญาตให้ใช้งานการขับขี่อัตโนมัติบนถนนได้ภายในปี 2022