ธุรกิจ “รับสร้างบ้าน” ที่ชะงักไปเมื่อปีก่อน เริ่มกลับมาส่งสัญญาณเติบโตแล้วในปีนี้ คาดว่าทั้งปีมีสิทธิ์โตได้ 5% โดยเฉพาะกลุ่มระดับบนสร้างบ้านหลังละ 10 ล้านบาทขึ้นไป ดีมานด์ยิ่งมากเพราะอาศัยจังหวะนี้ต่อรองราคา สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านเตรียมจัดงานแฟร์ 5 วันรองรับความต้องการลูกค้า วางเป้าขายภายในงาน 2,000 ล้านบาท
“วรวุฒิ กาญจนกูล” นายก สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน (HBA) เปิดเผยสถานการณ์ตลาดธุรกิจ “รับสร้างบ้าน” ปี 2564 เห็นสัญญาณบวกกลับมาแล้วในช่วง 2 เดือนแรกของปี ทำให้ประเมินยอดขายรวมเฉพาะของบริษัทในสมาคมฯ 50 แห่งซึ่งบริการในเขตกรุงเทพฯ-ปริมณฑล น่าจะเติบโตได้ 5% จากยอดขายรวมปีก่อนอยู่ที่ 11,500 ล้านบาท
โดยปีที่ผ่านมา หลังเกิดสถานการณ์ COVID-19 ทำให้ตลาดชะงักไปในช่วงครึ่งปีแรก และทำให้สมาคมฯ ไม่สามารถจัดงานแฟร์ประจำปีในช่วงเดือนมีนาคมได้ รวมทั้งปี 2563 ตลาดจึงติดลบประมาณ 5-10%
สำหรับปีนี้ วรวุฒิกล่าวว่า สัญญาณบวกที่กลับมาเชื่อว่าเกิดจากความมั่นใจของผู้ซื้อ หลังจากวัคซีนป้องกัน COVID-19 มีความชัดเจนซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีทางเศรษฐกิจ ลูกค้าที่ชะลอแผนการสั่งสร้างบ้านไปเมื่อปีก่อน เริ่มกลับมาดำเนินการต่อแล้ว
โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าระดับบนที่ลงทุนสร้างบ้านหลังละ 10 ล้านบาทขึ้นไป กลุ่มนี้ปกติจะใช้เงินสดในการสั่งสร้างบ้านเกือบทั้งหมด ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องสินเชื่อ มักจะเป็นกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจ หรือวิชาชีพรายได้สูง เช่น แพทย์ ทนายความ เมื่อเห็นสัญญาณที่ดีขึ้นในธุรกิจของตนจึงตัดสินใจได้ง่าย และอาศัยจังหวะที่เศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวดีเพื่อต่อรองราคา
กระทั่งภาพรวมธุรกิจนี้ทั้งหมด ลูกค้าก็มักจะใช้สินเชื่อบ้านไม่ถึง 50% ส่วนใหญ่ใช้เงินสดในการก่อสร้าง ทำให้ไม่ถูกกระทบในแง่การขอสินเชื่อที่ธนาคารเข้มงวดมากขึ้น แต่ขึ้นอยู่กับความมั่นใจของลูกค้าที่จะตัดสินใจเริ่มก่อสร้างมากกว่า
วรวุฒิกล่าวต่อว่า จากความต้องการที่กลับมาของลูกค้า งานมหกรรมประจำปี “รับสร้างบ้าน FOCUS 2021” จึงมีการเพิ่มวันจัดงานจาก 4 วันเป็น 5 วัน จัดขึ้นระหว่างวันที่ 10-14 มีนาคม 2564 ที่อิมแพค ฮอลล์ 6 เมืองทองธานี โดยหลังจากเปิดให้ลูกค้าลงทะเบียนร่วมงานล่วงหน้าตั้งแต่เดือนม.ค. 64 มีผู้ลงทะเบียนแล้วกว่า 3,000 คน มากกว่าปกติ 30%
สมาคมฯ คาดว่างานปีนี้จะสร้างยอดขายภายในงานแตะ 2,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% จากงานเดียวกันในปี 2562 โดยปีนี้มีบริษัทร่วมออกบูธกว่า 30 แห่ง แบบบ้านกว่า 1,000 แบบ ราคาหลากหลายตั้งแต่ 1-100 ล้านบาท และให้ส่วนลดไม่ต่ำกว่า 10%
โดยปกติบ้านที่ได้รับความสนใจกลุ่มใหญ่ที่สุดคือบ้านราคา 2-5 ล้านบาท แต่จากผลทางเศรษฐกิจ คาดว่าบ้านที่ราคาสูงขึ้นน่าจะได้รับความสนใจมากขึ้น ส่วนเทรนด์แบบบ้านที่ยังคงฮิตเสมอคือบ้านทรง “ยุโรป/คลาสสิก” ขณะที่แบบบ้านใหม่ๆ มาแรงในยุคนี้คือ “นอร์ดิก” เป็นบ้านหลังคาทรงจั่วที่ดูเรียบง่าย
วรวุฒิยังกล่าวเชิญชวนผู้ที่สนใจสร้างบ้านให้เร่งตัดสินใจ เนื่องจากช่วงนี้ผู้ประกอบการรับสร้างบ้านยังตรึงราคากันอยู่ แต่ในช่วงครึ่งปีหลังอาจมีการปรับราคาขึ้น เพราะราคาวัสดุก่อสร้างขึ้นยกแผงเฉลี่ย 5-10% โดยเฉพาะ “เหล็ก” ที่ปรับขึ้น 10-20% หลังจากผู้ผลิตใหญ่คือประเทศจีนจำกัดการเพิ่มซัพพลายจนราคาปรับสูง