“ยูบิลลี่” ขายเพชรช่วงโควิดยังมีกำไร! คนลงทุนเพชรเพิ่ม คอลเลกชันมุ้งมิ้งช่วยดันยอด

“ยูบิลลี่” บริษัทเครื่องประดับเพชรของไทย รายงานผลประกอบการปี 2563 รายได้ลดลง -5% แต่กำไรสุทธิยังโตเล็กน้อย +1.8% หลังจากช่วงครึ่งปีหลังตลาดฟื้นตัว และคาดว่าจะโตต่อเนื่องถึงปีนี้ ทำให้ตั้งเป้าปี 2564 โต 10% เน้นเร่งยอดขายสาขาเดิม กระตุ้นยอดออนไลน์ และใช้งาน collab กับแบรนด์พันธมิตรสร้างดีมานด์

อัญรัตน์ พรประกฤต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยูบิลลี่ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยผลประกอบการบริษัทปี 2563 ทำรายได้ 1,704 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน -5% แต่ทำกำไรสุทธิ 266.8 ล้านบาท เติบโตเล็กน้อย 1.8% เทียบกับปีก่อนยูบิลลี่ เอ็นเตอร์ไพรส์

โดยช่วงปีที่ผ่านมา สถานการณ์ COVID-19 มีผลกับยูบิลลี่ในช่วงครึ่งปีแรก เนื่องจาก 130 สาขาหน้าร้านของบริษัทตั้งอยู่ในศูนย์การค้า มาตรการล็อกดาวน์ของรัฐจึงมีผลให้ยูบิลลี่เหลือสาขาที่เปิดทำการได้เพียง 3 สาขาสแตนด์อะโลน คือ สีลม, สะพานเหล็ก และ จ.อยุธยา รายได้ช่วงไตรมาส 1-2 ปีก่อนจึงหดตัวลง

อัญรัตน์ พรประกฤต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยูบิลลี่ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน)

อย่างไรก็ตาม บริษัทมีการปรับมาเปิดช่องทาง อีคอมเมิร์ซ อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งช่วยพยุงยอดขายของบริษัทไว้ได้ โดยช่องทางนี้จะเหมาะกับผู้ซื้อเครื่องประดับราคาไม่สูง ซื้อเพื่อใส่ในชีวิตประจำวัน ในไตรมาส 2/63 บริษัทจึงรุกช่องทางออนไลน์ด้วยการใช้คอลเลกชันที่ collab กับคาแร็กเตอร์ LINE FRIENDS เป็นคอลเลกชันชูโรง ทั้งนี้ ตลอดทั้งปียอดขายของสาขาใหม่รวมกับช่องทางออนไลน์สามารถเติบโตได้ 3.7%

 

ปี’64 ตั้งเป้ากลับมาโต 10%

อัญรัตน์กล่าวต่อว่า ในช่วงครึ่งปีหลัง 2563 บริษัทเห็นสัญญาณการ “ฟื้นตัว” ในตลาดเครื่องประดับเพชรแล้ว โดยเฉพาะในช่วงไตรมาส 4 อัตราการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSS) โตถึง 7% เทียบกับปีก่อนหน้า แม้ว่าจะมีการระบาดระลอกสองของ COVID-19 ช่วงโค้งท้ายปีก็ตาม

ทำให้มองว่า กำลังซื้อปี 2564 น่าจะฟื้นตัวจากปีก่อน หลังจากบริษัทได้ผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว จากช่วงที่ถูกปิดสาขาเกือบทั้งหมดโดยไม่มีเวลาเตรียมตัวมากนัก

สำหรับเป้าหมายของปี 2564 ตั้งเป้ารายได้เติบโต 10% จากปีก่อน และเป้าหมายอัตรากำไรขั้นต้นไม่ต่ำกว่า 45% ทั้งนี้ ช่วงสองเดือนแรก บริษัทได้รับผลกระทบจากการระบาดระลอกสองบ้างในเดือนมกราคม แต่ยังเชื่อว่ารวมทั้งไตรมาส 1 จะยังเติบโตได้ตามเป้า เนื่องจากการจับจ่ายของผู้ซื้อกลับมาเร็วในเดือนกุมภาพันธ์

 

อัดขายออนไลน์ งาน collab กับพันธมิตร

ด้านกลยุทธ์เพื่อไปให้ถึงเป้าหมาย อัญรัตน์วางแนวทาง 5 ข้อหลักที่จะเกิดขึ้นในปีนี้ คือ

1) ออกคอลเลกชันใหม่เพื่อเร่งการซื้อ โดยจะมีการวิจัยสินค้าให้แม่นยำก่อนวางตลาดเพื่อทำให้การขายทำได้เร็ว ไม่เหลือสต๊อกค้าง โดยยกตัวอย่างผลงานเมื่อปีก่อน บริษัทออกคอลเลกชัน “วันแม่” เดือนสิงหาคม 2563 เพื่อกระตุ้นการซื้อหาเป็นของขวัญ ได้รับผลตอบรับที่ดีมาก โดยเฉพาะสาขาต่างจังหวัด

คอลเลกชัน Mon Amour ต้อนรับวันแม่ 2563 หนึ่งในคอลเลกชันที่ขายดีและช่วยดันรายได้-กำไรครึ่งปีหลัง

2) ฟื้นโปรแกรม CRM กับลูกค้าเก่าให้เข้มแข็ง จากปัจจุบันยูบิลลี่มีฐานสมาชิก 1.8 แสนรายทั่วประเทศ กลุ่มนี้จะเป็นเป้าหมายสำคัญ เพื่อดึงให้เกิดการซื้อซ้ำ

3) เปิดสาขาใหม่ 3-5 สาขา เน้นทำเลศักยภาพที่ยูบิลลี่ยังไม่มีสาขาครอบคลุม โดยจะเริ่มเปิดช่วงครึ่งปีหลัง

4) ช่องทางออนไลน์ หลังจากปีก่อนเปิดเต็มรูปแบบ นำสินค้าทุกรายการขึ้นสู่แพลตฟอร์มออนไลน์แล้ว ปีนี้จะเป็นการอัด Exclusive Deal บนช่องทางนี้โดยเฉพาะ คาดว่าสัดส่วนอีคอมเมิร์ซจะปรับขึ้นมาเป็น 5-6% ของรายได้รวม

คอลเลกชัน collab กับคาแร็กเตอร์ LINE FRIENDS เจาะกลุ่มวัยรุ่น วัยทำงานตอนต้น

5) พันธมิตรแบรนด์ เช่น งาน collab กับแบรนด์อื่น ยูบิลลี่มีพันธมิตรแล้ว 2 ราย คือ LINE และ Hello Kitty ปีนี้จะยังคงเป็นพันธมิตรต่อเนื่อง และมองหาพาร์ตเนอร์ใหม่ๆ

ตลาดเพชรกำลังกลับมาฟื้นทั่วโลก ข้อมูลจาก International Diamond Exchange ระบุว่า ราคาเพชรเจียระไนเดือนกุมภาพันธ์ 2564 ปรับขึ้น 5.1% เมื่อเทียบกับเดือนมีนาคม 2563 ซึ่งเป็นจุดที่ราคาเพชรร่วงลงต่ำสุดเนื่องจากโรคระบาด แถมยังเป็นราคาที่ปรับขึ้นสูงยิ่งกว่าช่วงก่อนเกิดโรคระบาดด้วย คาดว่าเกิดจากความอัดอั้นของเศรษฐีที่ไม่ได้ออกเที่ยวต่างประเทศเหมือนเคย ทำให้มาลงทุนซื้อ “เพชร” จนขายดีเช่นเดียวกับสินค้าลักชัวรีอื่นๆ