สำหรับ ‘Netflix’ ราชาแห่งโลกสตรีมมิ่งที่มีผู้ใช้กว่า 200 ล้านคนใน 190 ประเทศทั่วโลก ขณะที่บริการใหม่ อย่าง Peacock และ HBO Max ยังเป็นเพียงน้องใหม่ที่เพิ่งเริ่มสร้างฐานผู้ใช้ แต่ไม่ใช่กับ ‘Disney+’ น้องใหม่สุดแกร่งที่มีผู้ใช้ครบ ‘100 ล้านคน’ ภายใน 16 เดือน! และคาดว่าภายใน 3 ปีจะแซง Netflix เป็นเบอร์ 1 ของโลก
‘Ampere Analysis’ ระบุว่า Disney+ เพิ่งเปิดตัวในปลายปี 2019 แต่ปัจจุบันมีสมาชิกมากกว่า 100 ล้านคนทั่วโลก (รวมกับสมาชิกบนแพลตฟอร์มกีฬา ESPN + และ Hulu) โดยปัจจุบัน Disney+ อยู่อันดับ 3 ในตลาดสตรีมมิ่งโลก เป็นรอง ‘Amazon Prime Video’ เบอร์ 2 ของตลาด และ ‘Netflix’ เบอร์ 1 จากที่ Disney คาดว่าจะใช้เวลา 5 ปีถึงจะมีสมาชิก 90 ล้านคน
จากอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็วของ Disney+ คาดว่าภายในปี 2567 จะขึ้นเป็นเบอร์ 1 โดยคาดว่าจะมีสมาชิก 295 ล้านคน สูงกว่าที่ Disney ตั้งเป้าไว้ว่าจะมีสมาชิก 260 ล้านคน ส่วน Netflix คาดว่าจะมีสมาชิกแตะ 279 ล้านคน ซึ่งปัจจุบัน Netflix มีผู้ใช้ 203.7 ล้านคน
“เห็นได้ชัดว่า Disney+ มีการเติบโตที่รวดเร็วที่สุดจากบริการวิดีโอออนดีมานด์แบบสมัครสมาชิก พวกเขาสร้างตัวเองจนกลายเป็นกองกำลังระดับโลกอย่างรวดเร็ว แม้ว่า Disney+ จะยังคงมีผู้ใช้เพียงครึ่งเดียวของ Netflix แต่ก็มาถึงขั้นตอนนี้ในช่วงเวลาที่เร็วอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน” Richard Broughton นักวิเคราะห์จาก Ampere Analysis กล่าว
ที่ผ่านมา Disney ได้ทุ่มงบ 15,000 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 460,000 ล้านบาท) สร้างคอนเทนต์ใหม่ ๆ มาเสริมทัพ โดยเมื่อเทียบกับคู่แข่งแล้ว ณ เดือนมกราคมปีนี้ Disney+ มีคอนเทนต์จำนวน 4,500 ชั่วโมงเทียบกับ Netflix ที่มี 40,000 ชั่วโมง ส่วน Amazon Prime มี 50,000 ชั่วโมง แม้ว่าจำนวนคอนเทนต์ของ Disney+ จะตามหลังคู่แข่ง แต่ก็ตั้งเป้าที่จะคอนเทนต์ใหม่ ๆ มากกว่า 100 รายการในแต่ละปี
“มันเกี่ยวกับคุณภาพมากกว่าปริมาณ คู่แข่งคนอื่น ๆ มีปริมาณมาก แต่ Disney+ มีคอนเทนต์ที่ทำให้แฟน ๆ รู้สึกว่า ต้องดู”