เนื่องจาก ‘หัวเว่ย’ (Huawei) ยังต้องเผชิญกับปัญหาการคว่ำบาตรของอเมริกา ซึ่งนั่นก็ถือเป็นโอกาสที่จะทำให้ ‘ออปโป้’ (Oppo) เดินหน้าเก็บส่วนแบ่งให้มากขึ้นในตลาดสมาร์ทโฟน โดยตั้งเป้าขึ้นเป็น ‘เบอร์ 3’ ภายใน 3 ปี ซึ่งในเดือนมกราคมที่ผ่านมา ออปโป้ได้ขึ้นเป็นผู้นำในตลาดจีน ขณะที่ในตลาดยุโรปและอินเดียขึ้นเป็นอันดับที่ 5
Scott Zhang หัวหน้าฝ่ายธุรกิจต่างประเทศของ ‘ออปโป้’ เปิดเผยว่า ออปโป้ตั้งเป้าที่จะเป็น Top 3 ผู้เล่นอันดับต้น ๆ ของโลกโดยเฉพาะในตลาดสมาร์ทโฟนระดับ ‘ไฮเอนด์’ ในอีก 3-5 ปีข้างหน้า อย่างไรก็ตาม ในปี 2020 ออปโป้มียอดขายลดลง 4% มียอดขายทั้งหมด 115.1 ล้านเครื่องตามรายงานของบริษัท Canalys แต่ในตลาด ‘ยุโรป’ ออโป้เติบโต 225% ขึ้นเป็นผู้เล่นสมาร์ทโฟเบอร์ 5 ของภูมิภาค นอกจากนี้ ในตลาดประเทศญี่ปุ่นก็กำลังไปได้ดี โดยออปโป้มีการจัดส่งเพิ่มขึ้น 3 เท่าจากฐานที่ค่อนข้างเล็กข้อมูลของ IDC
ส่วนในประเทศจีน ออปโป้กลายเป็นผู้นำตลาดสมาร์ทโฟนในเดือนมกราคม นอกจากนี้ ยังเป็นผู้เล่นสมาร์ทโฟนรายใหญ่อันดับ 5 ในอินเดียมีส่วนแบ่ง 11% ส่วนแบรนด์ ‘Realme’ ซึ่งเป็นแบรนด์ลูกของออปโป้ที่เน้นตลาดสมาร์ทโฟนราคาประหยัดเป็นผู้เล่นรายใหญ่อันดับ 4 ของอินเดีย
Ben Wood หัวหน้านักวิเคราะห์ของ CCS Insight กล่าวว่า ออปโป้มีความก้าวหน้าที่ดีในไตรมาสที่ผ่านมาโดยแซงหน้า ‘หัวเว่ย’ ขึ้นเป็นผู้ผลิตโทรศัพท์รายใหญ่อันดับ 4 รองจาก แอปเปิล (Apple), ซัมซุง (Samsung) และ เสียวหมี่ (Xiaomi)
“Oppo Find X3 Pro แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจที่จะคว้าส่วนแบ่งจากหัวเว่ยและต่อสู้กับคู่แข่ง ซึ่งคนที่น่าจะปวดหัวสุดคงเป็นเสียวหมี่” Wood กล่าว “แต่ท้ายที่สุดแล้ว มันอาจจะขึ้นอยู่กับว่าออปโป้และบริษัทแม่อย่าง BBK พร้อมที่จะลงทุนมากแค่ไหนเพื่อปิดช่องว่างของเสียวหมี่เพื่อขึ้นเป็นเบอร์ 3 ของตลาดโลก”
Joey Yen นักวิเคราะห์ของ IDC กล่าวว่า “ปีที่แล้วเราเห็นยอดขายสมาร์ทโฟนด้วยช่องทางอีคอมเมิร์ซออนไลน์เพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยคิดเป็น 26% ของยอดขายสมาร์ทโฟนทั่วโลกจากประมาณ 20% ในปี 2019 เนื่องจากการล็อกดาวน์ ซึ่งนั่นเป็นข้อเสียของออปโป้ซึ่งเก่งในกลยุทธ์ที่เน้นหน้าร้าน”
อย่างไรก็ตาม Yen กล่าวว่าตลาดสมาร์ทโฟนตอนนี้อยู่ระหว่างการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เนื่องจากหัวเว่ยถูกคว่ำบาตรจากอเมริกา ทำให้ “ผู้เล่นหลักทุกคน มีโอกาสเปลี่ยนตำแหน่งตัวเอง”
Scott Zhang กล่าวถึงวิกฤตชิปเซ็ตที่ขาดแคลนว่า โลกอาจเผชิญกับภาวะขาดแคลนชิปครั้งใหม่ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าเนื่องจากความต้องการที่สูงขึ้นจาก 5G และเทคโนโลยีที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลอื่น ๆ โดยในปัจจุบันไม่ใช่แค่อุตสาหกรรมเทคโนโลยีเท่านั้น แต่ยังรวมถึงผู้เล่นยานยนต์ที่กำลังต่อสู้กับทรัพยากรชิปและส่วนประกอบอีกด้วย ความตึงเครียดของซัพพลายเชนเป็นปรากฏการณ์ระดับโลก และกลายเป็นความท้าทายสำคัญที่ผู้เล่นในหลายอุตสาหกรรมที่จะเผชิญและแก้ไข
“ความต้องการพลังงานคอมพิวเตอร์ของโลกนั้นแข็งแกร่งมากและปริมาณการใช้ข้อมูลก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก”
Zhang กล่าวว่า บริษัทของเขาได้เพิ่มความพยายามในการเสริมสร้างความสัมพันธ์กับซัพพลายเออร์รายสำคัญสำหรับสมาร์ทโฟนเรือธง และแสวงหาการจัดหาหลายแหล่งสำหรับโทรศัพท์ระดับกลางเพื่อให้แน่ใจว่าจะมีสินค้าที่เพียงพอต่อการเติบโตของโทรศัพท์มือถือ 5G
อย่างไรก็ตาม Zhang ปฏิเสธที่จะยืนยันว่าออปโป้ได้สั่งซื้อส่วนประกอบและชิ้นส่วนของสมาร์ทโฟนมากถึง 170 ล้านเครื่องในปี 2021 ซึ่งสูงกว่าปีที่แล้วมากกว่า 45%
“การระบาดใหญ่ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการทำงานของเราและอุตสาหกรรมสมาร์ทโฟนโดยรวมเมื่อปีที่แล้ว แต่เราคาดการณ์ว่าตลาดจะกลับมาเติบโตในปีนี้ และหวังว่าสถานการณ์ซัพพลายเชนจะคลี่คลายลงเล็กน้อยในช่วงครึ่งหลังของปีนี้”