เสียงคลิกของรุ่นใหญ่ออนไลน์

เว็บบอร์ด และบล็อกอาจจะดูเป็นเรื่องเล็กๆ น้อย (สำหรับางท่าน) แต่ในระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา ทีมงานวิจัยของบริษัท ฟาร์อีสท์ ดีดีบี พบว่า สิ่งนี้ได้กลับกลายเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ทางการตลาดที่หลายแบรนด์หันมาให้ความใส่ใจ หรือแม้กระทั่งเพิ่มบุคลากรเพื่อดูแลโดยเฉพาะ และหัวข้อที่เรากำลังจะพูดถึงนี้ก็คือ เว็บบอร์ดตามเว็บไซต์ต่างๆ หรือบล็อกที่มีเนื้อหาหลากหลาย เช่น บันทึกเรื่องราว หรือเรื่องส่วนตัว ที่กำลังมีอิทธิพลในการตัดสินใจซื้อ หรืออย่างน้อยได้กลายเป็นที่ปรึกษา ให้คำแนะนำในการซื้อสินค้าในยุคนี้ ที่ไม่เพียงเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นเท่านั้น แต่คนทำงานรุ่นกลางๆ จนถึงรุ่นใหญ่ ก็คลิกก่อนซื้อกันจำนวนมาก

ทางทีมงานวิจัยของบริษัท ฟาร์อีสท์ ดีดีบี จึงได้สำรวจความคิดเห็นกับผู้ตอบแบบสอบถามทั้งเพศชายและเพศหญิงที่มีอายุระหว่าง 35-55 ปี จำนวนทั้งหมด 200 คน ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยเป็นการทำการศึกษาผ่านทาง Insights Springboard ซึ่งเป็นเครื่องมือการศึกษาเบื้องลึกของผู้บริโภคที่สามารถทำให้เข้าใจเกี่ยวกับทัศนคติ และความต้องการของผู้บริโภคและสังคมแวดล้อมได้อย่างลึกซึ้ง

เพศ
ผู้ชาย 50%
ผู้หญิง 50%
อายุ
35-40 ปี 72%
40-55 ปี 28%

เว็บบอร์ดหมวดบันเทิงก็ไม่น้อยหน้า

จากผลการวิจัยของกลุ่มตัวอย่าง 200 คน พบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ (68%) มีประสบการณ์ในการเยี่ยมชมเวบบอร์ด (กระดานสนทนา) หรือบล็อก (เว็บไซต์ที่นำเสนอบันทึกส่วนตัวออนไลน์) ในขณะที่กลุ่มตัวอย่างอีก 32% ไม่เคยมีประสบการณ์ในการเยี่ยมชมเวบบอร์ดหรือบล็อกประเภทนี้มาก่อน

สำหรับผู้ให้สัมภาษณ์ในกลุ่มที่มีประสบการณ์ในการเยี่ยมชมเว็บบอร์ดหรือบล็อกประเภทดังกล่าวนั้น พบว่า กว่า 66% มักจะเยี่ยมชมเว็บบอร์ดหรือบล็อกที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวซึ่งส่วนใหญ่ที่พบเห็นได้โดยทั่วไปจะเป็นหน้ากระดานที่นำเสนอประสบการณ์ในการเดินทางไปเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศ หรืออาจจะเป็นการตั้งกระทู้เพื่อถามความคิดเห็นจากผู้อื่นเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ รวมถึงที่พักและโรงแรมต่างๆ

แต่ที่น่าสนใจก็คือ เว็บบอร์ดหรือบล็อกที่เกี่ยวข้องกับหมวดบันเทิงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหาที่เกี่ยวกับภาพยนตร์ เพลง/ดนตรี หรือแม้แต่หนังสือ เป็นต้น ก็ได้รับความสนใจในการแวะเวียนเข้าไปเยี่ยมชมของคนกลุ่มนี้

7 ประเภทเว็บบอร์ดหรือบล็อกที่มักจะเยี่ยมชม
การท่องเที่ยว เช่น ที่พัก โรงแรม 66%
รถยนต์ / รถจักรยานยนต์ 64%
อสังหาริมทรัพย์และที่พักอาศัยต่างๆ 62%
อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น โทรศัพท์มือถือ, MP3, MP4, กล้องถ่ายรูปดิจิตอล 60%
หมวดบันเทิง เช่น ภาพยนตร์, หนังสือ, เพลง 55%
บริการด้านการเงิน / ธนาคาร 47%
แนะนำภัตตาคาร / ร้านอาหาร 36%

สำหรับผู้ชายต้องรถยนต์

อย่างไรก็ตาม จากการวิเคราะห์เพิ่มเติมเพื่อดูความแตกต่างในประเด็นดังกล่าวระหว่างกลุ่มผู้ให้สัมภาษณ์ พบว่า ลำดับของประเภทเวบบอร์ดหรือบล็อกที่กลุ่มตัวอย่างเพศหญิงและกลุ่มตัวอย่างเพศชายมักจะเยี่ยมชมนั้นมีความแตกต่างกัน กล่าวคือ

• สำหรับกลุ่มตัวอย่างเพศหญิง เว็บบอร์ดที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว เว็บบอร์ดที่เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์/ที่พักอาศัย และเว็บบอร์ดเกี่ยวกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ กลับกลายเป็นแหล่งข้อมูลอันดับต้นๆ ที่กลุ่มตัวอย่างมักจะเข้าไปเยี่ยมชมหรือค้นหา

• ส่วนกลุ่มตัวอย่างเพศชายนั้น ปรากฏว่าเว็บบอร์ดที่เกี่ยวกับรถยนต์เป็นแหล่งข้อมูลอันดับหนึ่งที่กลุ่มตัวอย่างมักจะเข้าไปเยี่ยมชม ตามมาด้วยเว็บบอร์ดการท่องเที่ยวและอสังหาริมทรัพย์ โดยมีเว็บบอร์ดที่เกี่ยวกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ อยู่เป็นอันดับ 4

TOP 5 เว็บบอร์ดหรือบล็อกที่เยี่ยมชม
เพศชาย เพศหญิง
69% รถยนต์ / รถจักรยานยนต์ 66% การท่องเที่ยว เช่น ที่พัก โรงแรม
67% การท่องเที่ยว เช่น ที่พัก โรงแรม 66% อสังหาริมทรัพย์และที่พักอาศัยต่างๆ
59% อสังหาริมทรัพย์และที่พักอาศัยต่างๆ 61% อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น โทรศัพท์มือถือ, MP3, MP4, กล้องถ่ายรูปดิจิตอล
59% อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น โทรศัพท์มือถือ, MP3, MP4, กล้องถ่ายรูปดิจิตอล 57% หมวดบันเทิง เช่น ภาพยนตร์, หนังสือ, เพลง
53% หมวดบันเทิง เช่น ภาพยนตร์, หนังสือ, เพลง 57% รถยนต์ / รถจักรยานยนต์

ข้อมูลในส่วนนี้น่าจะเป็นประโยชน์และเพิ่มมุมมองให้กับนักการตลาดที่กำลังหาหนทางหรือตัดสินใจว่าจะหาช่องทางแนวใดที่จะแทรกตัวเข้าไปปรากฏกายอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ของกลุ่มเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบของโฆษณาแฝง แบนเนอร์โฆษณาสินค้า/บริการ โดยยึดความสนใจและไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมายเป็นที่ตั้ง

ใครว่าจะอ่านเพียงอย่างเดียว

ในความเป็นจริงแล้ว ก่อนที่เราจะตั้งคำถามสำหรับงานวิจัย บางครั้งเราจำเป็นต้องมีสมมุติฐานอยู่ในใจบ้าง เพื่อนำสมมุติฐานนั้นๆ ที่เรามีหรือตั้งเอาไว้มาใช้เป็นแนวทางในการสร้างคำถาม ซึ่งในครั้งนี้ เมื่อพิจารณาจากกลุ่มอายุแล้ว ทีมงานเชื่อว่ากลุ่มตัวอย่างไม่น่าจะมีกิจกรรมอะไรมากไปกว่าการอ่านเพื่อค้นคว้าหาข้อมูลเท่านั้น แต่กระนั้น เมื่อผลวิจัยออกมา หลายๆ คนก็ต้องแปลกใจเมื่อกลุ่มตัวอย่างเกือบครึ่งที่มีประสบการณ์ในการเยี่ยมชมเว็บบอร์ดหรือบล็อก ยอมรับว่าตนเองมีส่วนร่วมบนเว็บบอร์ดหรือบล็อกที่เข้าไปเยี่ยมชม ทั้งการตั้งกระทู้คำถาม หรือการแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมบนกระดานหรือกระทู้ที่มีอยู่ แต่อีกสิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นก็คือ การแนะนำหรือส่งต่อเวบบอร์ดหรือบล็อกไปยังผู้อื่น ซึ่งนัยหนึ่งก็เท่ากับเป็นการส่งต่อข้อมูลแบบปากต่อปากในกลุ่มผู้บริโภคและเครือข่ายของตนเอง ซึ่งถ้าหลายๆ แบรนด์สามารถคว้าโอกาสในการกระจายข่าวสารของแบรนด์ได้อย่างมีกลยุทธ์ก็น่าจะมีส่วนช่วยให้แบรนด์นั้นเป็นที่รู้จักของกลุ่มเป้าหมายได้แพร่หลายมากยิ่งขึ้น นอกเหนือไปจากการลงโฆษณาตามสื่อใหญ่ๆ อย่างสื่อโทรทัศน์และสื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆ

การมีส่วนร่วมบนเว็บบอร์ด หรือบล็อกที่เยี่ยมชม
51% อ่านเพียงอย่างเดียว
39% แสดงความคิดเห็น/ตอบกระทู้
39% ส่งความคิดเห็นต่อไปให้คนที่รู้จัก
22% ตั้งหัวข้อสนทนา/ตั้งกระทู้

นานาทัศนะกับเว็บบอร์ด

คงจะขาดสีสันไปมากโขอยู่ ถ้างานวิจัยชิ้นนี้ไม่มีการเจาะถามถึงความรู้สึกของกลุ่มตัวอย่างเกี่ยวกับเว็บบอร์ดหรือบล็อกที่มักจะเข้าไปเยี่ยมชม สำหรับนักการตลาดที่อาจจะยังเห็นว่าการตลาดในลักษณะนี้ไม่มีความสำคัญเทียบเท่าการตลาดในลักษณะอื่นมากนัก ขอเรียนให้ทราบว่า 75% ของกลุ่มตัวอย่าง เห็นด้วยว่า ในการตัดสินใจซื้อสินค้า/บริการใดๆ ควรมีการค้นคว้าหรือหาข้อมูลจากหน้าเวบประเภทนี้เสียก่อนเพื่อเป็นการประกอบการตัดสินใจ ซึ่งนี่ก็เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่สะท้อนให้เห็นว่า ข้อมูลหรือคำวิจารณ์ใดๆ ที่อาจจะเกี่ยวข้องกับสินค้า/บริการของเราจำเป็นที่ต้องได้รับการดูแลด้วย

ทัศนคติต่อการเยี่ยมชมเว็บบอร์ดหรือบล็อกเพื่อหาข้อมูลเกี่ยวกับสินค้า / บริการ
สำหรับสินค้า/บริการที่ไม่คุ้นเคย ถ้าได้ผ่านความคิดเห็นหรือประสบการณ์เกี่ยวกับสินค้า / บริการนั้นๆ บนเว็บไซต์ประเภทดังกล่าว จะช่วยให้ฉันรู้สึกคุ้นเคยและเข้าใจในตัวสินค้า/บริการมากยิ่งขึ้น 78%
คนทั่วไปควรอ่านความคิดเห็นหรือประสบการณ์เกี่ยวกับสินค้า / บริการต่างๆ บนเว็บไซต์ประเภทดังกล่าว เพื่อประกอบการตัดสินใจซื้อ 75%
ความคิดเห็นหรือคำวิจารณ์เกี่ยวกับสินค้า / บริการบนเว็บไซต์ประเภทดังกล่าว มีส่วนช่วยให้ฉันรู้สึกมั่นใจในคุณภาพของสินค้า / บริการมากขึ้น 74%
ฉันยินดีที่จะลงทะเบียนใช้บริการเว็บไซต์ประเภทดังกล่าว ถ้าทราบว่าจะได้รับของชำร่วย หรือส่วนลดในการซื้อสินค้า หรือบริการเพิ่มเติม 65%
ฉันเชื่อว่าความคิดเห็น หรือคำวิจารณ์เกี่ยวกับสินค้า / บริการบนเว็บไซต์ประเภทดังกล่าวนั้นสามารถเชื่อถือได้ 62%

ของฝากนักการตลาด

ท้ายนี้ ทีมวิจัยเชื่อเหลือเกินว่า แหล่งข้อมูลประเภทนี้ยังคงเป็นที่นิยมของผู้บริโภค ประเด็นที่อยากจะฝากเอาไว้กับนักการตลาดและนักโฆษณาก็คือ ในเมื่อผู้บริโภคสมัยนี้ (และในอนาคต) ได้กลายมาเป็นช่องทางการสื่อสารหลักอีกช่องทางหนึ่งสำหรับแต่ละแบรนด์ในตลาดแล้ว เราจะทำอย่างไรที่จะรักษาช่องทางการสื่อสารนี้ไว้ให้อยู่กับเรา ให้เป็นตัวแทนหรือทูตของแบรนด์ที่นำข้อมูลและความเข้าใจในแบรนด์ที่ถูกต้อง หรือแม้กระทั่งการเชิญชวนให้คนอื่นๆ มาเป็นสาวกของแบรนด์เรา ส่วนหนึ่งของงานนี้คงต้องพึ่งงานวิจัยในเชิงลึกขั้นต่อไปที่จะนำพาให้นักการตลาดและนักโฆษณาไปสู่โลกและวงจรการสื่อสารของผู้บริโภคกลุ่มนี้ ซึ่งในท้ายที่สุดน่าจะช่วยให้แบรนด์ต่างๆ ได้มีข้อมูลและพบเจอแนวทางใหม่ๆ ในการที่จะแทรกตัวเข้าไปอยู่ในวงโคจรการสื่อสารของคนกลุ่มนี้ได้อย่างมีกลยุทธ์และมีประสิทธิภาพ