ในฐานะผู้นำตลาดเครื่องดื่มชูกำลัง “M150” แตกไลน์แบรนด์พรีเมี่ยม “M150 STORM” จับกลุ่มเป้าหมายคนทำงานรุ่นใหม่ ที่มีความตึงเครียดและเหนื่อยล้าจากการทำงาน
โดยเริ่มโปรโมทผ่าน Movie Marketing กับการเป็นสปอนเซอร์หนังฟอร์มดีแต่รายได้ไม่เข้าเป้าอย่าง “อินทรีแดง” ผ่านสื่อ Below The Line ต่างๆ รวมถึงแจกเป็นของพรีเมี่ยมสำหรับรอบปฐมทัศน์ของภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วย
M150 STORM สร้างจุดขายแบบ Product Differentiation โดยใช้บรรจุภัณฑ์รูปทรงใหม่ ที่มีความโค้งมนมากขึ้น และใช้สีดำเพื่อสร้างความโดดเด่นบนชั้นวาง เสริมด้วยกราฟฟิคลายเส้นบิดเกลียวสีขาวดูทันสมัย ขณะที่ยังคงสีเหลืองซึ่งเป็นสีโลโก้ของ M150 ไว้เช่นเคย
ทั้งนี้ M150 STORM มี Positioning ใกล้เคียงกับเรดดี้ บูทส์ ของค่ายกระทิงแดง ที่ออกมาเพื่อจับกลุ่มคนเมืองโดยเฉพาะ
วางจำหน่ายแบบ FBO(First Best Only) ที่ 7-Eleven ทุกสาขาทั่วประเทศ ในราคาขวดละ 18 บาท กับปริมาตรสุทธิ 150 มล. ขณะที่ราคาเครื่องดื่มชูกำลังทั่วไปอยู่ที่ ขวดละ 10 บาท
สำหรับตลาดนี้ ซึ่งจับกลุ่มคนทำงานรุ่นใหม่นั้น โอสถสภามี ลิโพ วิตัน-ดี แบรนด์ของพันธมิตรจากญี่ปุ่นเป็นตัวยืนพื้นอยู่แล้ว และเป็นผลิตภัณฑ์ยอดนิยมในญี่ปุ่น แต่ในไทยยังมียอดขายตาม M150 และกระทิงแดงอยู่มาก
การลงเล่นในตลาดเครื่องดื่มชูกำลังพรีเมี่ยม เป็นอีกช่องทางหนึ่งในการเติบโตของโอสถสภา เนื่องจากตลาดเครื่องดื่มชูกำลังที่ผ่านมา แม้จะมีการปรับภาพลักษณ์ด้วยการสื่อสารผ่านภาพยนตร์โฆษณามาโดยตลอดให้ดูเป็นเครื่องดื่มสำหรับคนเมืองมากขึ้น แต่ก็ยังไม่อาจสลัดภาพเครื่องดื่มสำหรับผู้ใช้แรงงานไปได้
อีกทั้งการจำหน่ายในราคาที่สูงขึ้น โดยมีส่วนผสมเชิง Functional เพิ่มเติมเข้ามาอย่างL-Carnitine ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่เพิ่ม Value ให้กับผลิตภัณฑ์นี้ได้