หลายชาติในเอเชีย เเข่งหา ‘วัคซีน COVD-19’ หลังอินเดียระงับส่งออก สะเทือนโครงการ COVAX

Photo : Shutterstock
หลายประเทศในเอเชีย กำลังเร่งหาเเหล่งผลิตวัคซีน COVID-19’ แห่งใหม่ หลังอินเดียต้องระงับส่งออกวัคซีนแอสตราเซเนกาหลังยอดติดเชื้อในประเทศกลับมาพุ่งสูง ส่งผลให้โครงการ COVAX ขององค์การอนามัยโลกต้องเจอปัญหาขาดเเคลนวัคซีน ส่วนจีนเเละรัสเซียกำลังจะเข้ามาเจาะตลาดนี้

โดยเกาหลีใต้ อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์อยู่ในกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากความล่าช้าของวัคซีนในโครงการ COVAX ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อลดความเหลื่อมล้ำในกระจายวัคซีนให้แก่ประเทศยากจนกว่า 64 ประเทศ

ปัญหานี้เกิดขึ้นเมื่ออินเดีย’ หนึ่งในผู้ผลิตวัคซีนรายใหญ่ที่สุดของโลกต้องระงับการส่งออกวัคซีนของ แอสตราเซเนก้า (AstraZeneca) ซึ่งผลิตโดย Serum Institute of India (SII) เป็นการชั่วคราวจากความจำเป็นต้องเก็บสำรองวัคซีนไว้เพื่อใช้งานภายในประเทศ

โดย SII ได้ผลิตวัคซีนส่งให้กับ COVAX แล้วประมาณ 17.7 ล้านโดส จากกำหนดเดิมที่ต้องส่งมอบวัคซีนจำนวน 90 ล้านโดสให้กับ COVAX ในช่วงเดือนมีนาคมและเมษายน

ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่าอินเดียจะนำมอบวัคซีนส่วนนี้มาใช้ในประเทศเป็นจำนวนเท่าใด เเละไม่ได้ระบุรายละเอียดเกี่ยวกับระยะเวลาในการควบคุมการส่งออก

UNICEF ซึ่งเป็นพันธมิตรด้านการจัดจำหน่ายของ COVAX เปิดเผยเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า อินเดียอาจจะกลับมาส่งมอบวัคซีนไปต่างประเทศได้อีกครั้งภายในเดือนพฤษภาคม

(Photo by Chaiwat Subprasom/SOPA Images/LightRocket via Getty Images)

ยังคงมีอีกหลายชาติที่จำเป็นต้องพึ่งพาโครงการกระจายวัคซีนนี้ โดยเกาหลีใต้เพิ่งจะได้รับวัคซีนป้องกัน COVID-19 เพียง 432,000 โดสจากทั้งหมด 690,000 โดส โดยจะได้รับวัคซีนที่เหลือล่าช้าจากกำหนดเดิมไปเป็นสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนเมษายน

ด้านประธานาธิบดีโรดรีโก ดูแตร์เต ของฟิลิปปินส์ ประกาศปลดล็อกข้อจำกัดในการนำเข้าวัคซีนของเอกชน โดยอนุญาตให้บริษัทต่าง ๆ สามารถนำเข้าวัคซีนเพื่อนำมาใช้สำหรับพนักงานของตนเอง นอกเหนือจากที่รัฐจะจัดหาให้ เพื่อต่อสู้กับโรคระบาดในประเทศที่กลับมาอีกครั้ง

ส่วนทางการเวียดนาม ได้ขอให้ภาคเอกชนเข้ามาช่วยเหลือ หลังจากถูกปรับลดวัคซีนจากโครงการ COVAX ลงกว่า 40% เหลือ 811,200 โดส และคาดว่าจะได้รับวัคซีนล่าช้าออกไปอีกหลายสัปดาห์ 

ด้านเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขอินโดนีเซียเผยกับ Reuters ว่า รัฐบาลอาจจะได้รับวัคซีนจำนวนกว่า 10.3 ล้านโดสจากโครงการ COVAX ล่าช้าออกไปจนถึงเดือนพฤษภาคม

ก่อนจะเจอปัญหานี้ นักวิเคราะห์มองไปในทิศทางเดียวกันว่า ‘อินเดีย’ มีเเนวโน้มจะขึ้นตัวท็อปในการผลิตวัคซีน COVID-19 ของโลก ทั้งในด้านการคิดค้นวัคซีนและผลิตเอง หรือเป็นโรงงานรับจ้างผลิตให้กับต่างชาติ

โดยอินเดีย’ กำลังจะเป็นผู้ผลิตวัคซีน รายใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากสหรัฐฯ โดยจะมีกำลังผลิตที่สูงมาก ครอบคลุมทั้งประชากรในประเทศ 1.3 พันล้านคน เเละยังส่งต่อไปยังประเทศกำลังพัฒนา ผ่านโครงการ วัคซีนไมตรี (VaccineMaitr) เป็นของขวัญเชื่อมความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน

นับเป็น ‘การทูตเเบบใหม่’ เพื่อยกระดับบทบาทในเวทีโลก ไปพร้อมๆ กับการ ‘ต่อต้านจีน’ ที่กำลังขยายอิทธิพลในเอเชียใต้ ต้องลุ้นว่าอินเดียจะกลับมาส่งมอบวัคซีนไปต่างประเทศอีกครั้งได้อย่างเร็วที่สุดเมื่อใด

ขณะเดียวกันจีนเเละรัสเซียก็กำลังจะเข้ามาคว้าโอกาสนี้ โดยฟิลิปปินส์และอินโดนีเซีย พึ่งพาวัคซีนจาก Sinovac ของจีนจำนวนมากเพื่อการขับเคลื่อนการกระจายวัคซีน เเละเพิ่งอนุมัติใช้วัคซีน Sputnik V ของรัสเซีย ซึ่งฟิลิปปินส์คาดว่าจะได้รับ Sputnik V ล็อตแรกภายในเดือนเมษายนนี้

โดยรัฐบาลจีนประกาศว่า จะส่งความช่วยเหลือด้านวัคซีน COVID-19 ให้แก่ 80 ประเทศและองค์กรระหว่างประเทศอีก 3 แห่ง รวมถึงส่งออกวัคซีนไปยังกว่า 40 ประเทศ

 

 

ที่มา : CNA , Aljazeera